อธิบายว่า "พราก" จากการฝึกอินทรีย์ และวจีสัจจะอันเป็นฝ่าย
ปรมัตถสัจจะ.
บทว่า น โส เป็นต้น ความว่า บุคคลนั้น คือผู้เห็นปานนั้น
ย่อมไม่ควรนุ่งห่มผ้ากาสาวะ.
บทว่า วนฺตกสาวสฺส ความว่า พึงเป็นผู้มีกิเลสดุจน้ำฝาดอัน
คายแล้ว คือมีกิเลสดุจน้ำฝาดอันทิ้งแล้ว ได้แก่ มีกิเลสดุจน้ำฟาดอันละ
แล้ว ด้วยมรรค ๔.
บทว่า สีเลสุ ได้แก่ ในปาริสุทธิศีล ๔.
บทว่า สุสมาหิโต ได้แก่ ผู้ตั้งมั่นดี คือดำรงอยู่ด้วยดี.
บทว่า อุเปโต ความว่า ประกอบด้วยการฝึกอินทรีย์และวจีสัจจะ
มีประการดังกล่าวแล้ว.
บทว่า ส เว เป็นต้น ความว่า บุคคลนั้น คือเห็นปานนั้น
ย่อมควร [นุ่งห่ม] ผ้ากาสาวะนั้น.
ในกาลจบคาถา ภิกษุผู้อยู่ในต่างทิศนั้น ได้เป็นพระโสดาบัน.
ชนแม้เหล่าอื่นมีจำนวนมาก บรรลุอริยผลทั้งหลายมีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
เทศนาได้สำเร็จประโยชน์แก่มหาชน ดังนี้แล.
เรื่องพระเทวทัต จบ.
