กลับจากบิณฑบาตในเวลาหลังอาหารแล้ว เดินเข้าไปทางป่าอันธวัน เพื่อ
พักผ่อนกลางวัน เข้าไปถึงป่าอันธวันแล้วนั่งพักกลางวันที่โคนไม้แห่งหนึ่ง
สมัยนั้น พวกโจรทำโจรกรรม ฆ่าแม่โคแล้วพากันถือเนื้อเข้าไปสู่
ป่าอันธวัน นายโจรแลเห็นภิกษุณีอุปปลวัณณานั่งกลางวันอยู่ที่โคนไม้
แห่งหนึ่ง ครั้นแล้วจึงดำริว่า ถ้าพวกโจรลูกน้องของเราพบเข้า จักเบียด
เบียนภิกษุณีนี้ แล้วได้เลี่ยงไปทางอื่น ครั้นเมื่อเนื้อสุกแล้ว นายโจรนั้น
ได้เลือกเนื้อชิ้นที่ดี ๆ เอาใบไม้ห่อแขวนไว้ที่ต้นไม้ใกล้ภิกษุณีอุปปลวัณณา
แล้วกล่าวว่า เนื้อห่อนี้เราให้แล้วจริง ๆ ผู้ใดเป็นสมณะหรือพราหมณ์ได้
เห็น จงถือเอาไปเถิด ดังนี้แล้วหลีกไป
ภิกษุณีอุปปลวัณณาออกจากสมาธิ ได้ยินนายโจรนั้นกล่าววาจานี้
จึงถือเอาเนื้อนั้นไปสู่สำนัก ครั้นราตรีนั้นผ่านไป นางทำเนื้อนั้นสำเร็จ
แล้ว ห่อด้วยผ้าอุตราสงค์ เหาะไปลงที่พระเวฬุวัน.
[๔๗] ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังเสด็จเข้าไป
บิณฑบาตยังหมู่บ้าน ท่านพระอุทายีเหลืออยู่เฝ้าพระวิหาร จึงภิกษุณี
อุปปลวัณณาเข้าไปหาท่าน ครั้นแล้วถามว่า ท่านเจ้าข้า พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าประทับอยู่ที่ไหน
ท่านพระอุทายีตอบว่า ดูก่อนน้องหญิง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จ
เข้าไปบิณฑบาตยังหมู่บ้าน
อุป. โปรดถวายเนื้อนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า เจ้าข้า
อุทายี. ดูก่อนน้องหญิง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอิ่มเอิบด้วยเนื้อ
ของเธอ ถ้าเธอถวายผ้าอันตรวาสกแก่อาตมา แม้อาตมาก็จะพึงอิ่มเอิบ
ด้วยผ้าอันตรวาสกเหมือนเช่นนั้น