คนละ ๒๐ คน ฉันนั้น. นางจึงได้ชื่อว่า มีลูกและหลานเป็นบริวาร
๔๒๐ คน ด้วยประการอย่างนี้.
บทว่า อภิมงฺคลสมฺมตา คือ ผู้อันชาวโลกสมมติว่าเป็นอุดม-
มงคล.
บทว่า ยญฺเญสุ คือ ในทานน้อยและทานใหญ่
บทว่า ฉเณสุ คือ ในงานมหรสพอันเป็นไปเป็นครั้งคราว มี
อาวาหมงคลและวิวาหมงคลเป็นต้น.
บทว่า อุสฺสเวสุ ได้แก่ ในงานมหรสพฉลอง (สมโภช) มี
อาสาฬหนักขัตฤกษ์ และปวารณานักขัตฤกษ์เป็นต้น (งานฉลองนัก-
ขัตฤกษ์วันเข้าพรรษาและวันออกพรรษา).
บทว่า ปฐมํ โภเชนฺติ มีความว่า ชนทั้งหลาย เชิญให้รับประทาน'
ก่อน พลางขอพรว่า เด็กแม้เหล่านี้ จงเป็นผู้ไม่มีโรคมีอายุยืน เสมอ
ด้วยท่านเถิด ดังนี้. แม้ชนเหล่าใด เป็นผู้มีศรัทธาเลื่อมใส, ชนเหล่านั้น
ให้ภิกษุทั้งหลายฉันแล้ว จึงเชิญนางวิสาขานั้นแล ให้รับประทานก่อน
ทั้งปวง ในลำดับที่ภิกษุฉันแล้วนั้น.
บทว่า น อาทิยิ มีความว่า พระอุทายีเถระ ไม่เชื่อฟังคำของนาง.
อีกอย่างหนึ่ง ความว่า ไม่กระทำความเอื้อเฟื้อ.
บทว่า อลํกมฺมนิเย มีวิเคราะห์ว่า ที่นั่งที่ชื่อว่า กัมมนิยะ
เพราะอรรถว่า ควรแก่กรรม คือ เหมาะแก่กรรม. ที่ชื่อว่า อสังกัมมนิยะ
เพราะอรรถว่า อาจ สามารถ เพื่อทำการได้ ในอาสนะกำบังซึ่งพอจะ
ทำการได้นั้น. ความว่า ในสถานที่อย่างที่ชนทั้งหลาย เมื่อจะทำอัชฌาจาร
อาจทำกรรมนั้นได้. ด้วยเหตุนั้นนั่นแล ในบทภาชนะแห่งบทว่า