สองบทว่า อฏฺฐปเทปิ กีฬนติ มีความว่า ย่อมเล่นหมากรุกบน
กระดานหมากรุกแถวละ ๘ ตา. ในกระดานหมากรุกแถวละ ๑๐ ตา ก็
เหมือนกัน.
บทว่า อากาเสปิ มีความว่า เล่นหมากเก็บในอากาศ เหมือน
เล่นหมากรุกแถวละ ๘ ตา และแถวละ ๑๐ ตาฉะนั้น.
บทว่า ปริหารปเถ มีความว่า ทำวงเวียนมีเส้นต่าง ๆ ลงบนพื้น
ดินแล้ว เล่นวกวนไปตามเส้นวกวนในวงเวียนนั้น (เล่นชิงนาง).
สองบทว่า สนฺติกายปิ กีฬนิติ ได้แก่ เล่นกีฬาหมากไหวบ้าง.
อธิบายว่า ตัวหมากรุกและหินกรวดเป็นต้นที่ทอดไว้รวมกัน เอาเล็บ
เท่านั้นเขี่ยออก และเขี่ยเข้าไม่ให้ไหว. ถ้าว่า ในลูกสกาตัวหมากรุก
หรือหินกรวดเหล่านั้นบางอย่างไหว เป็นแพ้.
บทว่า ขลิกาย ได้แก่ เล่นโยนห่วงบนกระดานสกา.
บทว่า ฆฏิกาย มีความว่า การเล่นกีฬาไม้หึ่ง ท่านเรียกว่า ฆฏิถา
เล่นด้วยกีฬาไม้หึ่งนั้น. ความว่า เที่ยวเอาไม้ยาวตีไม้สั้นเล่น.
บทว่า สลากหตฺเถน มีความว่า เล่นเอาพู่กันจุ่มด้วยน้ำครั่ง น้ำ
ฝาง หรือน้ำผสมแป้งแล้วถามว่า จะเป็นรูปอะไร ? จึงแต้มพู่กันนั้นลง
ที่พื้น หรือที่ฝาผนังแสดงรูปช้างและรูปม้าเป็นต้น.
บทว่า อกฺเขน แปลว่า ลูกสกา.
บทว่า ปงฺกจิเรน มีความว่า หลอดใบไม้ ท่านเรียกว่า ปังกจิระ,
เล่นเป่าหลอดใบไม้นั้น.
บทว่า วงฺกเกน ได้แก่ ไถเล็ก ๆ เป็นเครื่องเล่นของพวกเด็กชาว
บ้าน.