มูลสนฺตานกานํ ได้แก่ การหยุดอยู่ของรากไม้. บทว่า อาฬฺหกถาลิกา
หม้อหุงข้าว (บรรจุ) ข้าวสารได้ ๑ อาฬหกะ. บทว่า ขุทฺทมธุํ ได้แก่ น้ำผึ้ง
ติดไม้ที่พวกผึ้งตัวเล็ก ๆ ทำไว้. บทว่า อเนลกํ ได้แก่ ไม่มีโทษ.
บทว่า น จ สุทํ อญฺญมญฺญสฺส ผลานิ หึสนฺตึ ความว่า
ผลไม้ทั้งหลายย่อมไม่เบียดส่วนของกันและกัน. ขึ้นชื่อว่า ต้นไม้ที่จะเอาส่วน
ของมันตัดราก เปลือกหรือใบ (ของต้นอื่น) ไม่มี. มนุษย์ทั้งหลายมีพระราชา
เป็นต้น จะบริโภคกันเฉพาะแต่ผลที่หล่นลงไปภายใต้กิ่งของมัน ๆ เท่านั้น.
แม้ผลที่หล่นจากส่วนของต้นหนึ่ง ไปสลับอยู่กับส่วนของอีกต้นหนึ่ง มนุษย์
ทั้งหลายมีพระราชาเป็นต้น พอทราบว่า ไม่ใช่ผลจากกิ่งของเรา ก็ไม่ยอม
เคี้ยวกิน.
บทว่า ยาวทตฺถํ ภกฺขิตฺวา ได้แก่ เคี้ยวกินโดยประมาณถึงคอ
(จนเต็มอิ่ม). บทว่า สาขํ ภญฺชิตฺวา ความว่า (ชายคนหนึ่ง) ตัดใบไม้
ขนาดเท่าร่ม กั้นให้เกิดร่มเงาพลางหลีกไป. บทว่า ยตฺร หิ นาม ได้แก่
โย หิ นาม (ชายคนใดคนหนึ่ง). บทว่า ปกฺกมิสฺสติ คือ หลีกไปแล้ว.
บทว่า นาทาสิ ความว่า ต้นพญานิโครธก็มิได้ออกผลอีก ด้วยอานุภาพของ
เทวดา. เพราะว่า เทวดานั้นได้อธิษฐานอย่างนี้.
บทว่า เตนุปสงฺกมิ ความว่า เมื่อชาวชนบทไปกราบทูลว่า ข้าแต่
มหาราช ต้นไม้ไม่ออกผลเลย เป็นความผิดของพวกหม่อมฉันหรือของพระองค์
พระเจ้าโกรัพยะทรงดำริว่า ไม่ใช่ความผิดของเรา ไม่ใช่ความผิดของพวก
ชาวชนบท อธรรมย่อมไม่เป็นไปในแว่นแคว้นของเรา ต้นไม้ไม่ออกผลเพราะ
เหตุอะไรหนอแล เราจักเข้าไปทูลถามท้าวสักกะ ดังนี้แล้ว เข้าไปเฝ้าท้าวสักกะ
จอมเทพจนถึงภพดาวดึงส์. บทว่า ปวตฺเตสิ แปลว่า พัดผัน. บทว่า
อุมมูลมกาสิ ได้แก่ ทำ (ต้นพญานิโครธ) ให้มีรากขึ้นข้างบน. บทว่า