ผู้สามารถ แม้ไกล ก็ควรไป. จริงอยู่ แม้ที่ไกล ๆ จัดเป็นภาระของ
พวกภิกษุไม่อาพาธทีเดียว. บัดนี้ เพื่อจะทรงแสดงแต่เพียงใจความเท่านั้น
ในคำว่า ก็ภิกษุนั้น อันภิกษุทั้งหลายกล่าวอยู่อย่างนี้ เป็นต้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำเป็นต้นว่า ภิกษุนั้นอันภิกษุทั้งหลาย พึงคุมตัวมา
แม้สู่ท่ามกลางสงฆ์แล้ว พึงกล่าว ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านี้นั้น สองบทว่า สงฺฆมชฺณมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา
มีความว่า ถ้าภิกษุนั้น อันพวกภิกษุว่ากล่าวอยู่โดยนัยก่อน ยังไม่สละ
คืน แม้พวกภิกษุจับที่มือและที่เท้า คุมตัวมาสู่ท่ามกลางสงฆ์ แล้วพึง
ว่ากล่าวเธออีกถึง ๓ ครั้ง โดยนัยเป็นต้นว่า มา อายสฺมา ดังนี้.
สองบทว่า ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพ มีความว่า สงฆ์พึงสวด
สมนุภาสถึงครั้งที่ ๓ ก่อน. มีคำอธิบายว่า สงฆ์พึงกระทำกรรมด้วย
สมนุภาสนกรรมวาจา ๓ หน. ก็ในบทภาชนะแห่งบทว่า ยาวตติยํ
สมนุภาสิตพฺโพ นั้น เพื่อถือเอาแต่ใจความแสดงสมนุภาสนวิธี พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำเป็นว่า โส ภิกฺขุ สมนุภาสิตพฺโพ เอวญฺจ
ปน ภิกฺขเว สมนุภาสิตพฺโพ ดังนี้.
ในคำว่า สมนุภาสิตพฺโพ เป็นต้นนั้น คำว่า ญตฺติยา ทุกฺกฏํ
ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ มีความว่า อาบัติ
ทั้ง ๓ คือ ทุกกฏที่ภิกษุต้องในที่สุดญัตติ และถุลลัจจัย ที่ต้องเพราะ
กรรมวาจา ๒ หน ย่อมระงับไปด้วยกรรมวาจาครั้งที่ ๓ พอสวดถึง ย
อักษร อย่างนี้ว่า ยสฺส นกฺขมติ โส ภาเสยฺย, ภิกษุนั้น ย่อมตั้งอยู่
ในสังฆาทิเสสทีเดียว.
ถามว่า อาบัติที่ต้องแล้วระงับไป หรือว่า อาบัติที่ไม่ได้ต้องระงับ.