เปรียบเหมือนเรือนยอด เมื่อมุงดีแล้ว ทั้งยอด ทั้งกลอน ทั้งฝา
เป็นอันได้รักษา ก็ไม่เปียก ไม่ผุ ฉันใด เมื่อจิตอันบุคคลรักษาแล้ว ฯลฯ
การตายย่อมเป็นการตายดี ฉันนั้น.
จบปฐมกูฏสูตรที่ ๗
อรรถกถาปฐมสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกูฏสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อวสฺสุตํ โหติ แปลว่า ย่อมเปียก. บทว่า น ภทฺทกํ
มรณํ โหติ ความว่า การตายดี เธอก็ไม่ได้เพราะกรรมทั้ง ๓ เป็นปัจจัย
แห่งปฏิสนธิในอบาย. บทว่า กาลกิริยา เป็นไวพจน์ของบทว่า มรณํ นั่นเอง.
พึงทราบวินิจฉัย ในธรรมฝ่ายสุกปักษ์ (ธรรมฝ่ายขาว) ดังต่อไปนี้ การตายดี
เป็นอันเธอได้แล้ว เพราะกรรมทั้ง ๓ เป็นปัจจัยแห่งปฏิสนธิในสวรรค์ แต่
การตายนั้น ใช้ได้สำหรับพระอริยสาวกทั้งหลาย ๓ จำพวก มีพระโสดาบัน
เป็นต้น โดยส่วนเดียวเท่านั้น. บทที่เหลือ ในพระสูตรนี้ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปฐมกูฏสูตรที่ ๗
๘. ทุติยกูฏสูตร
ว่าด้วยกรรมพินาศและไม่พินาศเพราะจิต
[๕๕๐] ครั้งนั้น อนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ฯลฯ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระธรรมเทศนาว่า
คฤหบดี เมื่อจิตร้ายแล้ว กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมก็ร้ายด้วย
การตายของบุคคลผู้มีกายกรรมวจีกรรมมโนกรรมร้าย ย่อมไม่เป็นการตายดี