No Favorites




หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 400 (เล่ม 31)

๗. พาหุลปัญญสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อมีปัญญามาก
[๑๖๔๗] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญามาก ...
จบพาหุลปัญญสูตรที่ ๗
๘. สีฆปัญญสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อมีปัญญาเร็ว
[๑๖๔๘] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเร็ว...
จบสีฆปัญญสูตรที่ ๘
๙. ลหุปัญญสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อมีปัญญาเบา
[๑๖๔๙] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเบา ...
จบลหุปัญญสูตรที่ ๙

400
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 401 (เล่ม 31)

๑๐. หาสปัญญสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อมีปัญญาร่าเริง
[๑๖๕๐] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาร่าเริง ...
จบหาสปัญญสูตรที่ ๑๐
๑๑. ชวนปัญญสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อมีปัญญาไว
[๑๖๕๑] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความมีปัญญาไว ...
จบชวนปัญญสูตรที่ ๑๑
๑๒. ติกขปัญญสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อมีปัญญากล้า
[๑๖๕๒] ... ย่อมเป็นไปเพื่อความมีปัญญาคมกล้า ...
จบติกขปัญญสูตรที่ ๑๒

401
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 402 (เล่ม 31)

๑๓. นิพเพธิกปัญญสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อมีปัญญาชำแรกกิเลส
[๑๖๕๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้ อันบุคคลเจริญ
แล้ว วาระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญา เป็นเครื่อง
ชำแรกกิเลส ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ การคบสัตบุรุษ ๑. การฟังสัท-
ธรรม ๑ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ๑ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำ
ให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญาเป็นเครื่องชำแรกกิเลส.
จบนิพเพธิกปัญญสูตรที่ ๑๓
จบมหาปัญญวรรคที่ ๗

402
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 403 (เล่ม 31)

มหาปัญญวรรควรรณนาที่ ๗
พึงทราบอธิบายในมหาปัญญวรรคที่ ๗.
พึงทราบเนื้อความในทุกบท ตามนัยที่กล่าวในปฏิสัมภิทาโดยนัยเป็น
ต้นว่า ชื่อว่าผู้มีปัญญามาก เพราะอรรถว่า กำหนดเอาในเนื้อความมาก ใน
บทเป็นต้นว่า ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีปัญญามาก ดังนี้นั่นเทียว.
คำที่เหลือในทุก ๆ บทตื้นทั้งนั้นแล.
จบมหาปัญญวรรควรรณนาที่ ๗
จบโสตาปัตติสังยุตที่ ๑๑
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. มหาปัญญสูตร ๒. ปุถุปัญญสูตร ๓. วิปุลลปัญญสูตร ๔. คัมภีร-
ปัญญสูตร ๕. อัปปมัตตปัญญสูตร ๖. ภูริปัญญสูตร ๗. พาหุลปัญญสูตร
๘. สีฆปัญญสูตร ๙. ลหุปัญญสูตร ๑๐. หาสปัญญสูตร ๑๑.ชวนปัญญสูตร
๑๒. ติกขปัญญสูตร ๑๓. นิพเพธิกปัญญสูตร.

403
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 404 (เล่ม 31)

สัจจสังยุต
สมาธิวรรคที่ ๑
๑. สมาธิสูตร
ผู้มีใจตั้งมั่นย่อมรู้ตามความเป็นจริง
[๑๖๕๔] สาวัตถีนิทาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเจริญ
สมาธิ ภิกษุผู้มีใจตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ย่อมรู้อะไรตามความ
เป็นจริง ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ
นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิ ภิกษุผู้มีใจตั้งมั่นแล้ว
ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย
พึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกข
นิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
จบสมาธิสูตรที่ ๑
สัจจสังยุตตาวรรณนา
สมาธิสูตร
พึงทราบอธิบายในสมาธิสูตรที่ ๑ แห่งอรรถกถาสัจจสังยุต.
คำว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย... สมาธิ ความว่า ได้ยินว่า ภิกษุ
เหล่านั้น ย่อมเสื่อม จากเอกัคคตาจิต (สมาธิ) ลำดับนั้น พระศาสดาทรง

404
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 405 (เล่ม 31)

ปรารภเทศนานี้ แก่ภิกษุเหล่านั้นว่า ภิกษุเหล่านั้น ได้ความที่จิตมีอารมณ์
เลิศเป็นหนึ่งอย่างนี้ เจริญกรรมฐานแล้ว ก็จักบรรลุคุณวิเศษได้. พึงทราบ
การตัดเหตุ ด้วยอำนาจเหตุตามที่เป็นจริง เป็นต้น ในบทนี้ว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลายเพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงทำความเพียรว่า นี้ทุกข์.
ก็มีคำอธิบายที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้แล้วนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุ
มีจิตตั้งมั่น ย่อมรู้ทั่วสัจจะ ๔ ตามความเป็นจริง เพราะเหตุใด เพราะเหตุนั้น
เธอทั้งหลายมีจิตตั้งมั่น พึงทำความเพียรว่า นี้ทุกข์ ดังนี้ เพื่อต้องการรู้
สัจจะ ๔ ตามความเป็นจริง. สัจจะ ๔ ย่อมเป็นธรรมชาติปรากฏแจ่มแจ้งแก่
พระตถาคตเจ้านั่นเทียว พระตถาคตเจ้าทรงจำแนกไว้ดีแล้ว ในสัจจะ ๔
เหล่านั้น การกล่าวสรรเสริญไม่มีประมาณ บทและพยัญชนะไม่มีประมาณ
และวัฏฏะย่อมเจริญ เพราะสัจจะ ๔ เหล่านั้น อันเธอทั้งหลายมิได้แทงตลอด
จำเดิมแต่กาลแทงตลอดสัจจะ ๔ เหล่านั้น วัฏฏะก็ไม่เจริญ เหตุใด เพราะ
เหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงทำความเพียรว่า นี้ทุกข์ ดังนี้ ด้วยความหวังว่า
วัฏฏะจักไม่เจริญอย่างนี้.
จบอรรถกถาสมาธิสูตรที่ ๑

405
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 406 (เล่ม 31)

๒. ปฏิสัลลานสูตร
ผู้หลีกเร้นอยู่ย่อมรู้ตามความเป็นจริง
[๑๖๕๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงถึงความประกอบใน
การหลีกออกเร้นอยู่ ภิกษุผู้หลีกออกเร้นอยู่ ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ย่อมรู้
อะไรตามความเป็นจริง ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย
นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เธอทั้งหลายจงถึงความประกอบใน
การหลีกออกเร้นอยู่ ภิกษุผู้หลีกออกเร้นอยู่ ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตาม
ความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
จบปฏิสัลลานสูตรที่ ๒
อรรถกถาปฏิสัลลานสูตร
ปฏิสัลลานสูตรที่ ๒ ท่านกล่าวไว้แล้ว เพื่อประโยชน์แก่การได้
เฉพาะความสงัดกาย แห่งภิกษุผู้มีความไม่ปกติทางกายวิเวก.
จบอรรถกถาปฏิสัลลานสูตรที่ ๒

406
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 407 (เล่ม 31)

๓. ปฐมกุลปุตตสูตร
ผู้ออกบวชโดยชอบเพื่อรู้อริยสัจ ๔
[๑๖๕๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล
ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ออกบวชแล้วเพื่อรู้
อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอนาคตกาล จัก
ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด จักออกบวชเพื่อรู้
อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบันกาล ออก
บวชเป็นบรรพชิตโดยชอบกุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมดออกบวชอยู่ เพื่อรู้อริยสัจ ๔
ตามความเป็นจริง อริยสัจ ๔ เป็นไฉน คือ ทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทัย
อริยสัจ ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ก็กุลบุตรเหล่าใด
เหล่าหนึ่งในอดีตกาล... ในอนาคตกาล... ในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็น
บรรพชิตโดยชอบ กุลบุตรเกล่านั้นทั้งหมดออnบวชเพื่อรู้อริยสัจ ๔ นี้แล
ตามความเป็นจริง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึง
กระทำความเพียรเพื่อรู้ความความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินี
ปฏิปทา.
จบปฐมกุลปุตตสูตรที่ ๓

407
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 408 (เล่ม 31)

อรรถกถาปฐมกุลปุตตสูตร
พึงทราบอธิบายในกุลปุตตสูตรที่ ๓.
คำว่า เพื่อรู้ยิ่ง คือ เพื่อประโยชน์แก่การรู้ยิ่ง. ก็พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงประสงค์เอา ผู้ประพฤติลงในศาสนา ในบทนี้ว่า สมณะหรือพราหมณ์.
จบอรรถกถากุลปุตตสูตรที่ ๓
๔. ทุติยกุลปุตตสูตร
ผู้ออกบวชโดยชอบรู้อริยสัจ ๔ ตามเป็นจริง
[๑๖๕๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล
ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ รู้แล้วตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่านั้น
ทั้งหมดรู้แล้วซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่งใน
อนาคตกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ จักรู้ตามความเป็นจริง กุลบุตร
เหล่านั้นทั้งหมดจักรู้ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ในปัจจุบันกาล ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ ย่อมรู้ตามความเป็นจริง
กุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมดย่อมรู้ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง อริยสัจ ๔
เป็นไฉน คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิบทาอริยสัจ ก็กุลบุตร
เหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล . . . ในอนาคตกาล . . . ในปัจจุบันกาล ออกบวช
เป็นบรรพชิตโดยชอบ รู้ตามความเป็นจริง กุลบุตรเหล่านั้น ทั้งหมดรู้ซึ่ง
อริยสัจ ๔ เหล่านี้ ตามความเป็นจริง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ

408
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ – หน้าที่ 409 (เล่ม 31)

เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้
ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
จบทุติยกุลปุตตสูตรที่ ๔
อธิบายความในทุติยกุลปุตตสูตรที่ ๔ ก็เหมือนกัน.
๕. ปฐมสมณพราหมณสูตร
สมณพราหมณ์รู้อริยสัจ ๔ ตามเป็นจริง
[ ๑๖๕๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สรณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่า
หนึ่งในอดีตกาล รู้แล้วตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น
ทั้งหมด รู้แล้วซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด
เหล่าหนึ่งในอนาคตกาล จักรู้ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น
ทั้งหมด จักรู้ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด
เหล่าหนึ่งในปัจจุบันกาล ย่อมรู้ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์
เหล่านั่นทั้งหมด ย่อมรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง อริยสัจ ๔ เป็นไฉน
คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ก็สมณะหรือพราหมณ์
เหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล...ในอนาคตกาล ... ในปัจจุบันกาล รู้ตาม

409