หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 254 (เล่ม 3)

บทภาชนีย์ มาติกา
สตรี ๑๐ จำพวก
[๔๒๘] สตรี ๑๐ จำพวก คือ สตรีมีมารดาปกครอง สตรี
มีบิดาปกครอง ๑ สตรีมีมารดาบิดาปกครอง ๑ สตรีมีพี่น้องชาย
ปกครอง ๑ สตรีมีพี่น้องหญิงปกครอง ๑ สตรีมีญาติปกครอง ๑ สตรี
มีโคตรปกครอง ๑ สตรีมีธรรมคุ้มครอง ๑ สตรีมีคู่หมั้น สตรีมี
กฎหมายคุ้มครอง ๑.
ภรรยา ๑๐ จำพวก
[๔๒๙] ภรรยา ๑ จำพวก คือ ภรรยาสินไถ่ ๑ ภรรยาที่อยู่
ด้วยความเต็มใจ ภรรยาที่อยู่เพราะสมบัติ ๑ ภรรยาที่อยู่เพราะผ้า ๑
ภรรยาที่สมรส ๑ ภรรยาที่ถูกปลงเทริด ภรรยาที่เป็นทั้งคนใช้เป็น
ทั้งภรรยา ๑ ภรรยาที่เป็นทั้งลูกจ้างทั้งเป็นภรรยา ภรรยาเชลย
ภรรยาชั่วคราว ๑.
มาติกาวิภังค์
[ ๔๓๐] สตรีที่ชื่อว่า มีมารดาปกครอง ได้แก่ สตรีที่มีมารดา
คอยระวัง ควบคุม ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ
สตรีที่ชื่อว่า มีบิดาปกครอง ได้แก่ สตรีที่มีบิดา คอยระวัง
ควบคุม ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ
สตรีที่ชื่อว่า มีมารดาปกครอง ได้แก่ สตรีที่มีมารดาบิดา
คอยระวัง ควบคุม ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ

254
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 255 (เล่ม 3)

สตรีที่ชื่อว่า มีพี่น้องชายปกครอง ได้แก่ สตรีที่มีพี่น้องชาย
คอยระวัง ควบคุม ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ
สตรีที่ชื่อว่า มีพี่น้องหญิงปกครอง ได้แก่ สตรีที่มีพี่น้องหญิง
คอยระวัง ควบคุม ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ
สตรีที่ชื่อว่า มีญาติปกครอง ได้แก่ สตรีที่มีญาติคอยระวัง ควบคุม
ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ
สตรีที่ชื่อว่า มีโคตรปกครอง ได้แก่ สตรีที่มีบุคคลร่วมสกุล
คอยระวัง ควบคุม ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ
สตรีที่ชื่อว่า มีธรรมคุ้มครอง ได้แก่ สตรีที่มีสหธรรมมิกทั้งหลาย
คอยระวัง ควบคุม ห้ามปราม ให้อยู่ในอำนาจ
สตรีที่ชื่อว่า มีคู่หมั้น ได้แก่ สตรีที่มีผู้หมั้นไว้แต่ในครรภ์ โดย
ที่สุด แม้สตรีที่ถูกบุรุษสวมด้วยพวงดอกไม้ ด้วยมั่นหมายว่า สตรีคนนี้
เป็นของเรา
สตรีที่ชื่อว่า มีกฎหมายคุ้มครอง ได้แก่ สตรีที่มีพระราชาบางองค์
ทรงกำหนดอาชญาไว้ว่า บุรุษใดถึงสตรีผู้มีชื่อนี้ ต้องได้รับอาชญาเท่านี้
[๔๓๑] ภรรยาที่ชื่อว่า สินไถ่ ได้แก่ สตรีที่บุรุษช่วยมาด้วยทรัพย์
แล้วให้อยู่ร่วม
ภรรยาที่ชื่อว่า อยู่ด้วยความเต็มใจ ได้แก่ สตรีที่บุรุษคู่รัก ให้
อยู่ร่วม
ภรรยาที่ชื่อว่า อยู่เพราะสมบัติ ได้แก่ สตรีที่บุรุษยกสมบัติให้
แล้วให้อยู่ร่วม

255
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 256 (เล่ม 3)

ภรรยาที่ชื่อว่า อยู่เพราะผ้า ได้แก่ สตรีที่บุรุษมอบผ้าให้แล้ว
ให้อยู่ร่วม
ภรรยาที่ชื่อว่า สมรส ได้แก่ สตรีที่บุรุษจับต้องภาชนะน้ำด้วยกัน
แล้วให้อยู่ร่วม
ภรรยาที่ชื่อว่า ถูกปลงเทริด ได้แก่ สตรีที่บุรุษปลงเทริดลง แล้ว
ให้อยู่ร่วม
ภรรยาที่ชื่อว่า เป็นคนใช้ ได้แก่ สตรีที่เป็นทั้งคนรับใช้ เป็น
ทั้งภรรยา
ภรรยาที่ชื่อว่า เป็นลูกจ้าง ได้แก่ สตรีที่เป็นทั้งคนทำงาน เป็น
ทั้งภรรยา
ภรรยาที่ชื่อว่า เชลย ได้แก่ สตรีที่เรียกว่า ถูกนำมาเป็นเชลย
ภรรยาที่ชื่อว่า ภรรยาชั่วคราว ได้แก่ สตรีที่เรียกว่า เป็นภรรยา
ชั่วขณะ.
๑. ธนักกีตาจักร
นิกเขปบท
[๔๓๒] บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไป
บอกสตรีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่
ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี

256
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 257 (เล่ม 3)

มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษ
ผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของ
บุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีพี่น้องชายปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของ
บุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าไป บอกสตรี
มีพี่น้องหญิงปกครองผู้นี้ชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของ
บุรุษผู้นี้ชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีญาติปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษ
ผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอกต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีโคตรปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษ
ผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี

257
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 258 (เล่ม 3)

มีธรรมคุ้มครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษ
ผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีคู่หมั้น ผู้มีชื่อว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้
ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีกฎหมายคุ้มครองผู้มี ชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่านจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของ
บุรุษผู้ผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส.
นิกเขปบท จบ
ธนักกีตาจักร
ขัณฑจักรมีสตรีคนหนึ่งเป็นมูล
[ ๔๓๓] บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไป
บอกสตรีมีมารดาปกดรองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ ว่า
ข่าวว่า ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้ชื่อนี้ ภิกษุรับคำ
นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มารดาปกครองผู้มีชื่อนี้และสตรีมีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส

258
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 259 (เล่ม 3)

บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีพี่น้องชายปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีพี่น้องหญิงปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำา นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีญาติปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอ
ท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีโคตรปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีธรรนคุ้มครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีคู่หมั้นผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่าน

259
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 260 (เล่ม 3)

ทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก
และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแด่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีกฎหมายคุ้มครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลาย จงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ขัณฑจักร จบ
ธนักกีตาจักร
พัทธจักร มีสตรีคนหนึ่งเป็นมูล หมวดที่ ๑
[๔๓๔] บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไป
บอกสตรีมีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า
ข่าวว่า ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับ
คำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีพี่น้องชายปกครองผู้มีชื่อนี้ ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำ
ไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีพี่น้องหญิงปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส

260
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 261 (เล่ม 3)

บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีญาติปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอ
ท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีโคตรปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอ
ท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีธรรมคุ้มครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอ
ท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก
และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีคู่หมั้นผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอท่าน
ทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก
และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีกฎหมายคุ้มครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีมารดาปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอ

261
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 262 (เล่ม 3)

ท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไปบอก
และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
พัทธจักร หมวดที่ ๑ จบ
ธนักกีตาจักร
พัทธจักร มีสตรีคนหนึ่งเป็นมูล หมวดที่ ๒
[๔๓๕] บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไป
บอกสตรีที่บิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีพี่น้องชายปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า
ข่าวว่า ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับ
คำ นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีพี่น้องหญิงปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า
ข่าวว่า ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ
นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีญาติปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีโคตรปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็น ภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส

262
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 263 (เล่ม 3)

บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีธรรมคุ้มครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีคู่หมั่นผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า ขอ
ท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีกฎหมายคุ้มครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าว
ว่า ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ
นำไปบอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ และสตรีมีมารดาปกดรองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
บุรุษวานภิกษุว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงไปบอกสตรี
มีมารดาบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ แสะสตรีมีบิดาปกครองผู้มีชื่อนี้ว่า ข่าวว่า
ขอท่านทั้งหลายจงเป็นภรรยาสินไถ่ ของบุรุษผู้มีชื่อนี้ ภิกษุรับคำ นำไป
บอก และกลับมาบอก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
พัทธจักร หมวดที่ ๒ จบ

263