No Favorites




หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 128 (เล่ม 30)

โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันน้อมไป
สู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
เมื่อเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ เมื่อกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอัน
ประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล จึงเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน
โอนไปสู่นิพพาน.
จบมหานทีสมุททนินนสูตรที่ ๑๒
หมวดที่ ๔ ว่าด้วยการน้อมไปสู่นิพพาน รวมเป็น ๑๒ สูตร
๖ สูตรแรก อุปมาด้วยแม่น้ำไหลไปสู่ทิศปราจีน ๖ สูตรหลังอุปมา
ด้วยแม่น้ำไหลไปสู่สมุทร.
จบหมวดที่ ๔
จบคังคาเปยยาลที่ ๙

128
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 129 (เล่ม 30)

อัปปมาทวรรคที่ ๑๐
๑. ปฐมตถาคตสูตร*
ผู้เจริญอริยมรรคน้อมไปในการสละ
[๒๔๕] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่ไม่มี
เท้าก็ดี มี ๒ เท้าก็ดี มี ๔ เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มี
สัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี มีสัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี มีประมาณ
เท่าใด พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บัณฑิตกล่าวว่าเป็นผู้เลิศกว่า
สัตว์เหล่านั้น ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่
ประมาทเป็นมูล รวมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาท บัณฑิต
กล่าวว่าเลิศกว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
อันภิกษุผู้ไม่ประมาทแล้ว พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘.
[๒๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริย-
มรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วย
องค์ ๘ อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก
อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ
อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อม
กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
จบปฐมตถาคตสูตรที่ ๑
(อีก ๓ สูตรข้างหน้า พึงให้พิสดารอย่างนี้)
* อรรถกถาแก้รวมไว้ท้ายวรรคนี้.

129
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 130 (เล่ม 30)

๒. ทุติยตถาคตสูตร
ผู้เจริญอริยมรรคมีการกำจัดราคะเป็นที่สุด
[๒๔๗] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่ไม่มี
เท้าก็ดี มี ๒ เท้าก็ดี มี ๔ เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี. . . อันภิกษุผู้ไม่ประมาท
พึงหวังข้อนี้ได้ว่า. จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้
มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์.
[๒๔๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริย-
มรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วย
องค์ ๘ อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ มีอันกำจัด
ราคะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโมหะเป็นที่สุด ฯลฯ
ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ มีอันกำจัดราคะเป็นที่สุด มีอันกำจัดโทสะเป็นที่สุด
มีอันกำจัดโมหะเป็นที่สุด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญ
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
จบทุติยตถาคตสูตรที่ ๒
๓. ตติยตถาคตสูตร
ผู้เจริญอริยมรรคอันหยั่งลงสู่อมตะ
[๒๔๙] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่ไม่มี
เท้าก็ดี มี ๒ เท้าก็ดี มี ๔ เท้าก็ดี. . . อันภิกษุผู้ไม่ประมาท พึงหวังข้อนี้
ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรค
อันประกอบด้วยองค์ ๘.

130
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 131 (เล่ม 30)

[๒๕๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริยมรรค
อันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันหยั่งลงสู่อมตะ
มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อัน
หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำ
ให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
๔. จตุตถตถาคตสูตร
ความไม่ประมาทเลิศกว่ากุศลธรรม
[๒๕๑] สาวัตถีนิทาน. ดุก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่ไม่มี
เท้าก็ดี มี ๒ เท้าก็ดี มี ๔ เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มี
สัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี มีสัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี มีประมาณ
เท่าใด พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บัณฑิตกล่าวว่าเป็นผู้เลิศกว่า
สัตว์เหล่านั้น ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้นมีความไม่
ประมาทเป็นมูล รวมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาท บัณฑิต
กล่าวว่าเลิศกว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
อันภิกษุผู้ไม่ประมาท พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วย
องค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘.

131
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 132 (เล่ม 30)

[๒๕๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญ
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันน้อม
ไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ
อันน้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
จบจตุตถตถาคตสูตรที่ ๔
๕. ปทสูตร
กุศลธรรมทั้งปวงมีความไม่ประมาทเป็นมูล
[๒๕๓] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รอยเท้าของสัตว์
ทั้งหลาย ผู้สัญจรไปบนแผ่นดิน ชนิดใดชนิดหนึ่ง ทั้งหมดนั้นย่อมถึงความ
ประชุมลงในรอยเท้าช้าง รอยเท้าช้าง บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่ารอยเท้าสัตว์
เหล่านั้น เพราะเป็นรอยใหญ่ แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ทั้งหมดนั้นมีความไม่ประมาทเป็นมูล รวมลงในความไม่ประมาท ความ
ไม่ประมาท บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ไม่ประมาท พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญ
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘.

132
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 133 (เล่ม 30)

[๒๕๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญ
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อัน
อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญ
สัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วย
องค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
จบปทสูตรที่ ๕
๖. กูฏสูตร
ว่าด้วยเรือนยอด
[๒๕๕] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กลอนแห่งเรือนยอด
อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นไปสู่ยอด น้อมไปสู่ยอด ประชุมเข้าที่ยอด
ยอดแห่งเรือนยอดนั้น บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่ากลอนเหล่านั้น แม้ฉันใด
กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาทเป็นมูล. . .
ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
จบกูฏสูตรที่ ๖

133
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 134 (เล่ม 30)

๗. มูลคันธสูตร
ว่าด้วยกลิ่นที่ราก
[๒๕๖] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม้มีกลิ่นที่รากชนิดใด
ชนิดหนึ่ง ไม้กลัมพัก บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าไม้มีกลิ่นที่รากเหล่านั้น แม้
ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาทเป็นมูล...
ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
จบมูลคันธสูตรที่ ๗
๘. สารคันธสูตร
ว่าด้วยกลิ่นที่แก่น
[๒๕๗] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม้มีกลิ่นที่แก่นชนิดใด
ชนิดหนึ่ง จันทน์แดง บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าไม้มีกลิ่นที่แก่นเหล่านั้น
แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาท
เป็นมูล. . . ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
จบสารคันธสูตรที่ ๘

134
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 135 (เล่ม 30)

๙. ปุปผคันธสูตร
ว่าด้วยกลิ่นที่ดอก
[๒๕๘] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่มีกลิ่นที่ดอกชนิดใด
ชนิดหนึ่ง มลิ บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าไม้มีกลิ่นที่ดอกเหล่านั้น แม้ฉันใด
กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาทเป็นมูล. . .
ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
จบปุปผคันธสูตรที่ ๙
๑๐. กุฏฐราชสูตร
ว่าด้วยพระราชาผู้เลิศ
[๒๕๙] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระราชาผู้น้อย
(ชั้นต่ำ) เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น ย่อมเป็นผู้ตามเสด็จพระเจ้าจักรพรรดิ
พระเจ้าจักรพรรดิบัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าพระราชาผู้น้อยเหล่านั้น แม้ฉันใด
กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาทเป็นมูล. . .
ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
จบกุฏฐราชสูตรที่ ๑๐

135
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 136 (เล่ม 30)

๑๑. จันทิมสูตร
ว่าด้วยพระจันทร์
[๒๖๐] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แสงสว่างแห่งดวงดาว
ชนิดใดชนิดหนึ่ง ทั้งหมดนั้น ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งแสงสว่างของ
พระจันทร์ แสงสว่างของพระจันทร์ บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าแสงสว่างของ
ดวงดาวเหล่านั้น แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความ
ไม่ประมาทเป็นมูล. . . ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
จบจันทิมสูตรที่ ๑๑
๑๒. สุริยสูตร
ว่าด้วยพระอาทิตย์
[๒๖๑] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในสรทสมัย ท้องฟ้า
บริสุทธิ์ ปราศจากเมฆ พระอาทิตย์ขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ย่อมส่องแสงและแผดแสง
ไพโรจน์ กำจัดความมืดอันมีอยู่ในอากาศทั่วไป แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใด
เหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาทเป็นมูล. . . ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ
จบสุริยสูตรที่ ๑๒

136
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ – หน้าที่ 137 (เล่ม 30)

๑๓. วัตถสูตร
ว่าด้วยผ้า
[๒๖๒] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผ้าที่ทอด้วยด้ายชนิดใด
ชนิดหนึ่ง ผ้าของชาวกาสี บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าผ้าที่ทอด้วยด้ายเหล่านั้น
แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทั้งหมดนั้น มีความไม่ประมาท
เป็นมูล รวมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาท บัณฑิตกล่าวว่าเลิศ
กว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้
ไม่ประมาท พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ จัก
กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘.
[๒๖๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญ
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัย
วิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมา-
สมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
จบวัตถสูตรที่ ๑๓
จบอัปปมาทวรรคที่ ๑๐

137