จักษุวิญญาณย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง จักษุสัมผัสย่อม
ปรากฏตามความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกข์เวทนา หรือ
อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิด เพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ย่อมปรากฏตาม
ความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง ฯลฯ ใจย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง
ธรรมารมณ์ย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง มโนวิญญาณย่อม
ปรากฏตามความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง มโนสัมผัสย่อมปรากฏตามความเป็น
จริงว่า ไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิด
ขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงหลีกเร้นบำเพ็ญความเพียร เพราะเมื่อ
ภิกษุหลีกเร้นอยู่ สิ่งทั้งปวงย่อมปรากฏตามความเป็นจริง.
จบ ทุติยชีวกัมพวนสูตรที่ ๖
อรรถกถาชีวกัมพวนสูตรที่ ๕ - ๖
สูตรที่ ๕ ตรัสสำหรับเหล่าภิกษุผู้ยังบกพร่องด้วยสมาธิ. สูตรที่ ๖
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า กรรมฐานของพวกเธอต้องได้พี่เลี้ยง จึง
ตรัสสำหรับเหล่าภิกษุผู้ได้ความที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง และความสงัดกาย
แต่ยังบกพร่องด้วยการหลีกเร้น. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โอกฺกายติ
ได้แก่อันเขารู้กันทั่ว คือ ปรากฏ. ดังนั้น ในสูตรทั้ง ๒ พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงได้ตรัสมรรค ๔ พร้อมด้วยวิปัสสนา.
จบ อรรถกถาชีวกัมพวนสูตรที่ ๕ - ๖