หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 4 (เล่ม 3)

คิดเพื่อความประกอบ เราแสดงเพื่อความไม่ถือมั่น เธอยังจักคิดเพื่อ
มีความถือมั่น
ดูก่อนโมฆบุรุษ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยอเนกปริยาย เพื่อ
เป็นที่สำรอกแห่งราคะ เพื่อเป็นสร่างแห่งความเมา เพื่อเป็นที่
บรรเทาความระหาย เพื่อเพิกถอนอาลัย เพื่อเข้าไปตัดวัฏฏะ เพื่อสิ้น
แห่งตัณหา เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับทุกข์ เพื่อความไม่มี
กิเลสเครื่องร้อยรัด มิใช่หรือ
ดูก่อนโมฆบุรุษ การละกาม การกำหนดรู้ความหมายในกาม
การกำจัดความระหายในกาม การเพิกถอนความตรึกอันเกี่ยวด้วยกาม
การระงับความกลัดกลุ้มเพราะกาม เราบอกไว้แล้วโดยอเนกปริยาย
มิใช่หรือ
ดูก่อนโมฆบุรุษ การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความ
เลื่อมใสของชุมชนที่ไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของ
ชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว โดยที่แท้การการทำของเธอนั่น เป็นไปเพื่อ
ความไม่เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และเพื่อความเป็นอย่าง
อื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว
(พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงติเตียนท่านพระเสยยสกะโดยอเนกปริยาย
ดังนี้แล้ว) ตรัสโทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก ความเป็นคนบำรุงยาก
ความเป็นคนมักมาก ความเป็นคนไม่สันโดษ ความคลุกคลี ความ
เกียจคร้าน ตรัสคุณแห่งความเป็นคนเลี้ยงง่าย ความเป็นคนบำรุงง่าย
ความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่า

4
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 5 (เล่ม 3)

เลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย
ทรงกระทำธรรมีกถาที่สมควรแก่เรื่องนั้น ที่เหมาะสมแก่เรื่องนั้น แก่
ภิกษุทั้งหลาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบท
แก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัยอำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ เพื่อความ
รับว่าดีแห่งสงฆ์ เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อ
ยาก ๑ เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ๑ เพื่อป้องกันอาสวะ
อันจะบังเกิดในปัจจุบัน ๑ เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑
เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ๑ เพื่อความเลื่อมใสยิ่ง
ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ๑ เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม ๑ เพื่อ
ถือตามพระวินัย ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระบัญญัติ
๕. ๑. ปล่อยสุกกะเป็นไปด้วยความจงใจ เป็นสังฆาทิเสส
ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ
ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.
เรื่องพระเสยยสกะ จบ
เรื่องภิกษุหลายรูป
[๓๐๒] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายฉันโภชนะอันประณีตแล้ว
จำวัดปล่อยสติไม่มีสัมปชัญญะ เมื่อเธอจำวัดปล่อยสติไม่มีสัมปชัญญะ อสุจิ

5
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 6 (เล่ม 3)

เคลื่อนโดยฝัน เธอมีความรังเกียจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติ
สิกขาบทไว้ว่า ปล่อยสุกกะเป็นไปด้วยความจงใจ เป็นสังฆาทิเสส แต่
อสุจิของพวกเราเคลื่อนโดยฝัน ทั้งเจตนาความฝันนี้จะว่ามีก็ได้ ชะรอย
พวกเราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เจตนานี้มีอยู่ แต่นั่น
เป็นอัพโพหาริก
ทรงบัญญัติพระอนุบัญญัติ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุ
เป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุ
ทั้งหลาย อาศัยอำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระอนุบัญญัติ
๕. ๑. ก. ปล่อยสุกกะเป็นไปด้วยความจงใจ เว้นไว้แต่ฝัน
เป็นสังฆาทิเสส.
เรื่องภิกษุหลายรูป
สิกขาบทวิภังค์
[๓๐๓] บทว่า เป็นไปด้วยความจงใจ ความว่า รู้อยู่ รู้ดีอยู่ จงใจ
ตั้งใจละเมิด.

6
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 7 (เล่ม 3)

บทว่า สุกกะ อธิบายว่า สุกกะมี ๑๐ อย่าง คือ สุกกะสีเขียว ๑
สุกกะสีเหลือง สุกกะสีแดง ๑ สุกะสีขาว ๑ สุกกะสีเหมือนเปรียง ๑
สุกกะสีเหมือนน้ำท่า ๑ สุกกะสีเหมือนน้ำมัน ๑ สุกกะสีเหมือนนมสด ๑
สุกกะสีเหมือนนมส้ม ๑ สุกกะสีเหมือนเนยใส ๑
การกระทำอสุจิให้เคลื่อนจากฐานตรัสเรียกว่า การปล่อย ชื่อว่า
การปล่อย.
บทว่า เว้นไว้แต่ฝัน คือว่า ยกเว้นความฝัน.
บทว่า สังฆาทิเสส ความว่า สงฆ์เท่านั้นให้ปริวาสเพื่ออาบัตินั้น
ได้ ชักเข้าหาอาบัติเดิมได้ ให้มานัตได้ เรียกเข้าหมู่ได้ ไม่ใช่คณะมาก
รูปด้วยกัน ไม่ใช่บุคคลรูปเดียว เพราะฉะนั้น จึงตรัสเรียกว่า สังฆา-
ทิเสส คำว่า สังฆาทิเสส เป็นการขนานนาม คือเป็นชื่อของหมวด
อาบัตินั้นแล แม้เพราะเหตุนั้น จึงตรัสเรียกว่า สังฆาทิเสส.
บทภาชนีย์
(อุบาย ๔)
[๓๐๔] ภิกษุปล่อยสุกกะในรูปภายใน ๑ ปล่อยสุกกะในรูปภาย
นอก ๑ ปล่อยสุกกะในรูปทั้งที่เป็นภายในทั้งที่เป็นภายนอก ๑ ปล่อยเมื่อ
ยังสะเอวให้ไหวในอากาศ ๑
(กาล ๕)
ปล่อยเมื่อเวลาเกิดความกำหนัด ๑ ปล่อยเมื่อเวลาปวดอุจจาระ
ปล่อยเมื่อเวลาปวดปัสสาวะ ๑ ปล่อยเมื่อเวลาต้องลม ๑ ปล่อยเมื่อเวลา
ถูกบุ้งขน ๑

7
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 8 (เล่ม 3)

(ความประสงค์ ๑๐)
ปล่อยเพื่อประสงค์ความหายโรค ๑ ปล่อยเพื่อประสงค์ความสุข ๑
ปล่อยเพื่อประสงค์เป็นยา ๑ ปล่อยเพื่อประสงค์ให้ทาน ๑ ปล่อยเพื่อ
ประสงค์เป็นบุญ ๑ ปล่อยเพื่อประสงค์บูชายัญ ๑ ปล่อยเพื่อประสงค์ไป
สวรรค์ ๑ ปล่อยเพื่อประสงค์เป็นพืช ๑ ปล่อยเพื่อประสงค์จะทดลอง ๑
ปล่อยเพื่อประสงค์ความสนุก ๑
(วัตถุประสงค์ ๑๐)
ปล่อยสุกกะสีเขียว ๑ ปล่อยสุกกะสีเหลือง ๑ ปล่อยสุกกะสีแดง ๑
ปล่อยสุกกะสีขาว ๑ ปล่อยสุกกะสีเหมือนเปรียง ๑ ปล่อยสุกะสีเหมือน
น้ำท่า ๑ ปล่อยสุกกะสีเหมือนนมสด ๑ ปล่อยสุกกะสีเหมือนนมส้ม
ปล่อยสุกกะสีเหมือนเนยใส ๑. ปล่อยสุกกะสีเหมือน้ำมัน ๑
[๓๐๕] บทว่า รูปภายใน ได้แก่ รูปที่มีวิญญาณครอง เป็น
ภายใน.
บทว่า รูปภายนอก ได้แก่ รูปที่มีวิญญาณครอง หรือรูปที่ไม่มี
วิญญาณครอง เป็นภายนอก.
บทว่า รูปทั้งที่เป็นภายในทั้งที่เป็นภายนอก ได้แก่ รูปทั้งสองนั้น.
บทว่า เมื่อยังสะเอวให้ไหวในอากาศ คือ เมื่อพยายามในอากาศ
องค์กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้.
บทว่า เมื่อเวลาเกิดความกำหนัด คือ เมื่อถูกราคะบีบคั้นแล้ว
องค์กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้.
บทว่า เมื่อเวลาปวดอุจจาระ คือ เมื่อปวดอุจจาระ องค์กำเนิด
เป็นอวัยวะใช้การได้.

8
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 9 (เล่ม 3)

บทว่า เมื่อเวลาปวดปัสสาวะ คือเมื่อปวดปัสสาวะ องค์กำเนิด
เป็นอวัยวะใช้การได้.
บทว่า เมื่อเวลาต้องลม คือเมื่อลมโชยแล้ว องค์กำเนิดเป็น
อวัยวะใช้การได้.
บทว่า เมื่อเวลาถูกบุ้งขน คือเมื่อถูกบุ้งขนเบียดเบียนแล้ว องค์
กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้.
บทว่า เพื่อประสงค์ความหายโรค คือเพื่อหวังว่าจักเป็นคนไม่มีโรค.
บทว่า เพื่อประสงค์ความสุข คือเพื่อหวังว่าจักยังสุขเวทนาให้เกิด.
บทว่า เพื่อประสงค์เป็นยา คือเพื่อนุ่งว่าจักเป็นยา.
บทว่า เพื่อประสงค์ให้ทาน คือเพื่อมุ่งว่าจักให้ทาน.
บทว่า เพื่อประสงค์เป็นบุญ คือเพื่อมุ่งว่าจักเป็นบุญ.
บทว่า เพื่อประสงค์บูชายัญ คือเพื่อมุ่งว่าจักบูชายัญ.
บทว่า เพื่อประสงค์ไปสวรรค์ คือเพื่อมุ่งว่าจักได้ไปสวรรค์.
บทว่า เพื่อประสงค์เป็นพืช คือเพื่อมุ่งว่าจักเป็นพืช.
บทว่า เพื่อประสงค์ทดลอง คือเพื่อมุ่งว่าจักทดลองดูว่า สุกกะ
จักเป็นเขียว สีเหลือง สีแดง สีขาว สีเหมือนเปรียง สีเหมือนน้ำท่า
สีเหมือนน้ำมัน สีเหมือนนมสด สีเหมือนน้ำมันหรือสีเหมือนเนยใส.
บทว่า เพื่อประสงค์ความสนุก คือมีความมุ่งหมายจะเล่น.
สุทธิกสังฆาทิเสส
อุบาย ๔ อย่าง
[๓๐๖] ภิกษุจงใจ พยายาม ในรูปภายใน สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส

9
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 10 (เล่ม 3)

ภิกษุจงใจ พยายาม ในรูปภายนอก สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม ในรูปทั้งที่เป็นภายใน ทั้งที่เป็นภายนอก
สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อยังสะเอวให้ไหวในอากาศ สุกกะเคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
กาล ๕ อย่าง
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาเกิดความกำหนัด สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อปวดอุจจาระ สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาปวดปัสสาวะ สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาต้องลม สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาถูกบุ้งขน สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ความประสงค์ ๑๐ อย่าง
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อประสงค์ความหายโรค สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อประสงค์ความสุข สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส

10
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 11 (เล่ม 3)

ภิกษุจงใจ พยายาม ในรูปภายนอก สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม ในรูปทั้งที่เป็นภายใน ทั้งที่เป็นภายนอก
สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อยังสะเอวให้ไหวในอากาศ สุกกะเคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
กาล ๕ อย่าง
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาเกิดความกำหนัด สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อปวดอุจจาระ สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาปวดปัสสาวะ สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาต้องลม สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาถูกบุ้งขน สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ความประสงค์ ๑๐ อย่าง
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อประสงค์ความหายโรค สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อประสงค์ความสุข สุกกะเคลื่อน ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส

11
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 12 (เล่ม 3)

ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะสีเหมือนเปรียงเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะสีเหมือนน้ำท่าเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะสีเหมือน้ำมันเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะสีเหมือนนมสดเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะสีเหมือนนมส้มเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม สุกกะสีเหมือนเนยใสเคลื่อน ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
สุทธิกสังฆาทิเสส จบ
ขัณฑจักร
มีความประสงค์อย่างเดียวเป็นมูล หมวดที่ ๑
[๓๐๗] ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อความสุข
สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อเป็นยา สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อให้ทาน สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส

12
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 13 (เล่ม 3)

ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อเป็นบุญ สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อบูชายัญ สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อไปสวรรค์ สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อควานหายโรคและเพื่อเป็นพืช สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อทดลอง สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความหายโรคและเพื่อความสนุก สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ขัณฑจักร มีความประสงค์อย่างเดียวเป็นมูล หมวดที่ ๑ จบ
พัทธจักร
มีความประสงค์อย่างเดียวเป็นมูล หมวดที่ ๑
[๓๐๘] ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความสุขและเพื่อเป็นยา สุกกะ
เคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความสุขและเพื่อให้ทาน สุกกะเคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุจงใจ พยายาม เพื่อความสุขและเพื่อเป็นบุญ สุกกะเคลื่อน
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส

13