สัมมาวายามะ
ภิกษุนั้นย่อมพยายามเพื่อละมิจฉาสังกัปปะ เพื่อบรรลุสัมมาสังกัปปะ
ความพยายามของเธอนั้น เป็นสัมมาวายามะ.
ภิกษุนั้นมีสติละมิจฉาสังกัปปะได้ มีสติบรรลุสัมมาสังกัปปะอยู่ สติ
ของเธอนั้น เป็นสัมมาสติ.
ธรรมที่ห้อมล้อมสัมมาสังกัปปะ
ด้วยอาการนี้ ธรรม ๓ ประการนี้ คือสัมมาทิฏฐิ ๑ สัมมาวายา-
มะ ๑ สัมมาสติ ๑ ย่อมห้อมล้อม เป็นไปตามสัมมาลังกัปปะ ของภิกษุนั้น.
[๒๖๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์ทั้ง ๗ นั้น สัมมาทิฏฐิ
ย่อมเป็นประธาน ก็สัมมาทิฏฐิย่อมเป็นประธานอย่างไร ? คือ ภิกษุรู้จัก
มิจฉาวาจาว่าเป็นมิจฉาวาจา รู้จักสัมมาวาจาว่าเป็นสัมมาวาจา ความรู้
ของเธอนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิ.
มิจฉาวาจา
[๒๖๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็มิจฉาวาจาเป็นไฉน ? คือพูดเท็จ ๑
พูดส่อเสียด ๑ พูดคำหยาบ ๑ เจรจาเพ้อเจ้อ ๑ นี้คือ มิจฉาวาจา.
สัมมาวาจา ๒
[๒๖๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาวาจาเป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เรากล่าวสัมมาวาจาไว้ ๒ อย่าง คือ สัมมาวาจาที่ยังเป็นสาสวะ
ส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์อย่าง ๑ สัมมาวาจาที่เป็นอริยะ เป็นอนา-
สวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรคอย่าง ๑.