ฉันขนมกุมาสบูด แม้เราเห็นกับตาก็ไม่เชื่อ ทนไม่ได้. คฤหบดียืนจับที่
ขอบปากบาตรของพระเถระกล่าวคำมีประมาณเท่านี้ เมื่อบิดายืนจับที่ขอบปาก-
บาตรอยู่นั้นแล แม้พระเถระ ก็ฉันขนมบูดนั้น ที่ส่งกลิ่นบูดในที่ที่แตกเหมือน
ฟองไข่เน่า เป็นเช่นกับรากสุนัข . เล่าว่าปุถุชนก็ไม่อาจกินขนมเช่นนั้นได้. แต่
พระเถระดำรงอยู่ในอริยฤทธิ ฉันเหมือนกับฉันอมฤตรสทิพยโอชา รับน้ำด้วย
ธรรมกรก ล้างบาตร ปาก และมือเท้า กล่าวคำเป็นต้นว่า กุโต โน คหปติ.
ในบทเหล่านั้น บทว่า กุโต โน แปลว่า แต่ที่ไหนหนอ. บทว่า เนว
ทานํ ความว่า ไม่ได้ทานโดยไทยธรรมเลย. บทว่า น ปจฺจกฺขานํ
ความว่า ไม่ได้แม้คำเรียกขาน โดยปฏิสันถารอย่างนี้ว่า พ่อรัฐปาละ เจ้า
พอทนบ้างหรือ มาด้วยความลำบากเล็กน้อยบ้างหรือ พ่อไม่ฉันอาหารใน
เรือนก่อนหรือ.
ก็เพราะเหตุไร พระเถระจึงกล่าวอย่างนี้. เพราะอนุเคราะห์บิดา.
ได้ยินว่า พระเถระคิดอย่างนี้ว่า บิดานี้ พูดกะเราฉันใด เห็นที่จะพูดกะ
บรรพชิตแม้อื่นฉันนั้น ก็ในพระพุทธศาสนา ภายในของเหล่าภิกษุผู้ปกปิด
คุณเช่นเรา เหมือนดอกปทุมในระหว่างใบ เหมือนไฟที่เถ้าปิด เหมือน
แก่นจันทน์ที่กะพี้ปิด เหมือนแก้วมุกดาที่ดินปิด เหมือนดวงจันทร์ที่เมฆฝนปิด
ย่อมไม่มี ถ้อยคำเห็นปานนี้ จักเป็นไปในภิกษุเหล่านั้น บิดาก็จักตั้งอยู่ใน
ความระมัดระวัง เพราะเหตุนั้น พระเถระจึงกล่าวอย่างนี้ด้วยความอนุเคราะห์.
บทว่า อหิ ตาต ความว่า คหบดีพูดว่า พ่อเอ่ยเรือนของเจ้าไม่มีดอก มา
เราไปเรือนกัน. บทว่า อลํ ได้แก่ พระเถระเมื่อปฏิเสธจึงกล่าวอย่างนี้
เพราะเป็นผู้ถือเอกาสนิกังคธุดงค์อย่างอุกฤษฏ์. บทว่า อธิวาเสสิ ความว่า
แต่พระเถระ โดยปกติเป็นผู้ถือสปทานจาริกังคธุดงค์อย่างอุกฤษฏ์ จึงไม่รับ
ภิกษา เพื่อฉันในวันรุ่งขึ้น แต่รับด้วยความอนุเคราะห์มารดา. ได้ยินว่า
