และมหาอำมาตย์ของพระราชาเป็นต้น จะทำให้พวกเราถึงความย่อยยับได้.
อุบาสกกล่าวว่า พ่อเอ๋ย ข้าจักไม่ทำอย่างนั้นแน่ ก็ข้อนั้นแล มีด้วยความกรุณา
ในโจรเหล่านั้น ไม่ใช่มีด้วยความรักในชีวิตของตน. เมื่อเป็นเช่นนั้น บรรดา
โจรเหล่านั้นซึ่งกำลังทุ่มเถียงกันว่า ควรจับไว้ ควรปล่อยไป พวกโจรเหล่าที่มี
ความเห็นว่าควรจับ มีจำนวนมากกว่า ก็ฆ่าอาจารย์นั้นเสีย. ดวงตาของโจร
เหล่านั้น ก็อันตรธานไปเหมือนประทีปด้ามที่ดับ เพราะผิดในพระอริยสาวกผู้มี
พลังคุณ. โจรเหล่านั้นรำพันว่า ดวงตาอยู่ไหน ดวงตาอยู่ไหน บางพวกญาติ
ก็นำกลับบ้าน บางพวกไม่มีญาติ ก็กลายเป็นเป็นคนอนาถา เพราะฉะนั้นจึง
อาศัยอยู่ที่บรรณศาลาที่โคนไม้ในดงนั้นเอง. เหล่ามนุษย์ที่มาในดง ก็ให้ข้าว
สารบ้าง ห่อข้าวบ้าง เสบียงบ้าง แก่โจรเหล่านั้นด้วยความความกรุณา.
เหล่ามนุษย์ที่ไปแสวงหาไม้และใบไม้เป็นต้นกลับมากันแล้ว เมื่อถูกถามว่า
พวกท่านไปไหนกัน ตอบว่าพวกเราไปป่าคนตาบอด. ป่านั้นปรากฏชื่อว่า
อันธวัน ครั้งพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์ด้วยประการฉะนี้.
ก็ป่านั้นครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสป ได้กลายเป็นดง ใน
ชนบทที่ร้างไป. แต่ครั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา ได้กลายเป็นเรือนสำหรับ
ทำความเพียร เป็นสถานที่อยู่ของเหล่ากุลบุตรผู้ต้องการความสงัด อยู่หลัง
พระเชตวันไม่ไกลกรุงสาวัตถี. สมัยนั้นท่านกุมารกัสสปก็บำเพ็ญเสกขปฎิปทา
อยู่ที่อันธวันนั้น. เพราะเหตุนั้น ท่านจงกล่าวว่า อนฺธวเน วิหรติ.
บทว่า อญฺญตรา เทวตา ความว่า เทวดาองค์หนึ่งไม่ปรากฏนาม
และโคตร. แม้ท้าวสักกเทวราชที่รู้กันชัดแจ้ง ท่านก็ยังเรียกว่า อญฺญตโร
ในบาลีนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบหรือไม่ว่า
พระองค์ได้ตรัส ตัณหาสังขยวิมุตติ โดยสังเขปแก่ยักษ์ผู้มีศักดิ์ใหญ่องค์หนึ่ง.
แม้คำว่า เทวตา นี้เป็นคำเรียกทั่วไป แม้สำหรับเทวดาทั้งหลาย. แต่ในที่