ใช้ในอรรคว่า อมนุษย์ ดังในประโยคนี้ว่า ภูตทั้งหลายเหล่าใด
มาประชุมพร้อมกัน แล้วในที่นี้ ดังนี้.
ใช้ในอรรถว่า ธาตุ ๔ ดังในประโยคนี้ว่า ดูก่อนภิกษุ มหาภูตรูป
๔ แล เป็นเหตุ . . . ดังนี้.
ใช้ในอรรถว่า มีอยู่ ดังในประโยคเป็นต้นว่า เป็นปาจิตตีย์ใน
เพราะภูต ดังนี้.
ใช้ในอรรถว่า พระขีณาสพ ดังในประโยคนี้ว่า ก็ภูตใดเป็นผู้
กินกาละ ดังนี้.
ใช้ในอรรถว่า สัตว์ ดังในประโยคนี้ว่า ภูตทั้งหลายทั้งปวงแล
จักทิ้งร่างกายไว้ในโลก ดังนี้.
ใช้ในอรรถเป็นต้นว่า ต้นไม้ ในประโยคนี้ว่า ภุตคามปาตพฺยตาย
(พรากภูตคาม) ดังนี้.
แต่ในที่นี้ ภูตศัพท์นี้ ย้อมใช้ในสัตว์ทั้งหลาย. ก็แล ภูตศัพท์
จะเป็นไปโดยไม้แตกต่างกันเลยก็หามิได้ เพราะว่าสัตว์ทั้งหลาย ต่ำกว่าชั้น
จาตุมมหาราช ท่านประสงค์เอาว่า ภูต ในที่นี้ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ภูเต ภูตโต สญฺชานาติ เป็นต้น
มีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
ความสำคัญด้วยอำนาจตัณหา มานะ ทิฏฐิ
ก็ในคำเป็นต้นว่า ภูเต มญฺญติ พึงประกอบความสำคัญแม้ ๓
อย่าง.
อย่างไร ? จริงอยู่ ปุถุชนนี้ยึดเอาภูตทั้งหลายว่า งาม มีความสุข