No Favorites

พูดผิด ทำผิด ไม่อยากแก้ไข ไม่ใช่มีแต่มานะเท่านั้น แต่มันเป็นการหวังชื่อเสียง หวังลาภสักการะด้วย

ผู้ที่จะพูดไม่ผิดเลยมีแต่ผู้เดียว คือ พระพุทธเจ้า นอกนี้หมดสิทธิ์ เมื่อหมดสิทธิ์ มันไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะไม่ยอมรับและแก้ไข เมื่อพูดผิด ทำผิด ถ้าไม่ยอมรับ มันจะไปเข้าหวังชื่อเสียง หวังลาภสักการะด้วย มันไม่ใช่มีแต่มานะ

...ความถือว่าเราเป็นทิฏฐิ ความถือว่าของเราเป็นตัณหา ความถือตัวอันนอนอยู่ในสันดานเป็นมานะ...

เพราะไม่อยากถูกมองในแง่ลบ ไม่อยากเสียเครดิต มันก็คือ หวังลาภนั้นแหละ เพราะห่วงชื่อเสียงตนเอง เช่น ไปไล่ลบคอมเม้นต์ของผู้อื่น ไม่อยากให้ตนเองถูกมองไม่ดี มันก็คือหวังชื่อเสียงเหมือนกัน

...ก็ผู้ใดแสดงธรรมด้วยคิดว่า เราจักได้ลาภหรือสักการะเพราะอาศัยธรรมเทศนาน เทศนาของผู้นั้นย่อมไม่บริสุทธิ์...

...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งมีความคิดอย่างนี้ ย่อมแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นว่า โอหนอชนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ก็แลครั้นฟังแล้ว พึงเลื่อมใสซึ่งธรรมผู้ที่เลื่อมใสแล้วเท่านั้น จะพึงทำอาการของผู้เลื่อมใสต่อเรา ดังนี้ ภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนาของภิกษุเห็นปานนี้แล ไม่บริสุทธิ์ ส่วนภิกษุใดแลเป็นผู้มีความคิดอย่างนี้ แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นข้อปฏิบัติอันผู้บรรลุจะพึงเห็นเองไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามาในตน อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน โอหนอ ชนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ก็แลครั้นฟังแล้ว จะพึงรู้ทั่วถึงธรรม ก็แลครั้นรู้ทั่วถึงธรรมแล้ว จะพึงปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ดังนี้ อาศัยความที่แห่งพระธรรมเป็นธรรมอันดี จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น อาศัยความกรุณา จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นอาศัยความเอ็นดู จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น อาศัยความอนุเคราะห์จึงแสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่น ด้วยประการฉะนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรมเทศนาของภิกษุเห็นปานนี้แล บริสุทธิ์