No Favorites

เก่งบาลี แต่ไม่เข้าใจเนื้อความและไม่ทำตามคำสอน ไม่เรียกว่า รู้เนื้อความภาษิตของพระพุทธองค์

การเรียนบาลี เป็นข้อดี อันนี้ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่ไม่ได้เรียนบาลี (อ่านแต่ฉบับแปล) จะไม่เข้าใจเนื้อความแห่งธรรมได้เลย เพราะการที่จะรู้ธรรมได้นั้นย่อมขึ้นอยู่กับการสั่งสมบารมีมาแต่ชาติปางก่อนหลายๆชาติ ชาตินี้แม้อ่านแค่ฉบับแปล และฟังจากผู้รู้มันก็เข้าใจได้

เช่น เอกปุคคลวรรคที่ ๑๓ บางคนรู้บาลี แต่พอมาเจอหลักธรรมข้อนี้ ไม่เข้าใจก็มี ต่างจากผู้ที่ไม่ได้เรียนบาลีอะไรเลย อ่านแค่ฉบับแปล และฟังจากผู้รู้ก็เข้าใจได้ บางคนเก่งบาลีแต่ละเมิดพระธรรมวินัย ต่างจากอีกคน ที่ไม่ได้ละเมิด

เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจเนื้อความและทำตามคำสอน ถึงจะเรียกว่า เป็นผู้รู้เนื้อความภาษิตของพระพุทธเจ้า

ถามว่า คนเหล่าไหน ย่อมรู้เนื้อความภาษิตนี้ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตอบว่า เบื้องต้น ชนเหล่าใดร่ำเรียนบาลี และอรรถกถาของพระสูตรนี้ แต่ไม่ทำตามที่ร่ำเรียนมานั้น ไม่ปฏิบัติอนุโลมปฏิปทา ตามที่กล่าวแล้ว ชนเหล่านั้นชื่อว่าย่อมไม่รู้ ส่วนชนเหล่าใดเป็นผู้กระทำตามที่เล่าเรียนมานั้น ปฏิบัติอนุโลมปฏิปทาตามที่กล่าวแล้ว ชนเหล่านั้นชื่อว่ารู้

พยัญชนะเป็นที่พึ่งไม่ได้ เนื้อความเป็นที่พึ่งได้

...ไม่พึงยึดพยัญชนะจนเกินไป ดำรงอยู่ในข้อแนะนำของอาจารย์ทั้งหลาย พิจารณาถึงเนื้อความด้วยประการฉะนี้ ด้วยว่า เนื้อความเป็นที่พึ่งได้ พยัญชนะไม่ได้...

พระพุทธเจ้าไม่เรียกผู้เรียนมากหรือพูดมาก (แต่ไม่เข้าใจเนื้อความ) ว่า เป็นผู้ทรงธรรม

...พระศาสดาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เรียกผู้เรียนมากหรือพูดมากว่า ' เป็นผู้ทรงธรรม ' ส่วนผู้ใดเรียนคาถาแม้คาถาเดียวแล้วแทงตลอดสัจจะทั้งหลาย ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้ทรงธรรม"...