No Favorites

พระตถาคตตรัสย่อมมีเหตุ และตรัสห้ามสิ่งไหน สิ่งนั้นทำแล้วย่อมเป็นบาป

พระตถาคตตรัสย่อมมีเหตุ

...อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น...

แม้แต่แย้มพระสรวลยังมีเหตุเลย

...ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแย้มพระสรวล พระตถาคตทั้งหลายไม่ทรงแย้มพระสรวลโดยหาเหตุมิได้...

และพระพุทธเจ้าตรัสห้ามสิ่งไหน สิ่งนั้นทำแล้วย่อมเป็นบาป เช่น ตรัสว่า รูปไหน ๆ ไม่สามารถเปรียบพระองค์ได้ ตรัสแค่นี้ หมายความว่าห้ามปั้นรูปท่านไปในตัวเลย (แม้ไม่มีคำว่าห้ามก็ตาม) เพราะถ้าให้ทำรูปเปรียบ จะไม่ตรัสว่า ไม่มีอะไรเปรียบ ต้องตรัสว่ามีอะไรเปรียบ

[๑๔๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ ไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอ เสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าคนทั้งหลาย บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอกนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอเสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย

และเมื่อไม่มีอะไรเปรียบ ถ้าไปทำเปรียบย่อมเป็นบาป เช่น ในพระไตรปิฎกก็มี

  • ดังเรื่องท่านลกุณฏกภัททิยะเกิดมาเตี้ยเพราะไปทำประมาณของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้หาประมาณมิได้ (อันนี้แค่ทำประมาณในเจดีย์)
  • ตายคาความอาลัยในวัตถุ เช่น รูปปั้น จะได้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่กับสิ่งนั้น
  • ใครกล่าวว่า รูปปั้นคือตัวแทนพระพุทธเจ้า ผู้นั้นกล่าวตู่พระพุทธเจ้า
กระทู้เกี่ยวข้อง :  #พระพุทธเจ้าห้ามปั้นรูปพระองค์ ละเมิดสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ย่อมประสบบาปเป็นอันมาก