No Favorites

ทำบุญไม่หวังผลจริงหรือ?

ทำบุญก็ย่อมหวังผล สร้างบารมีก็เพื่อให้บรรลุธรรม ให้บุญบ่อย ๆ ก็ได้บุญบ่อย ๆ ส่วนผู้มีปัญญาถึงจะเกิดบ่อย ๆ ก็เพื่อได้มรรคแล้วไม่เกิดอีก

[๖๘๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า กสิกรย่อมหว่านพืชบ่อย ๆ ฝนย่อมตกบ่อย ๆ ชาวนาย่อมไถนาบ่อย ๆ แว่นแคว้นย่อมบริบูรณ์ด้วยธัญชาติบ่อย ๆ ยาจกย่อมขอบ่อย ๆ ทานบดีก็ให้บ่อย ๆทานบดีให้บ่อย ๆ แล้ว ก็เข้าถึงสวรรค์บ่อย ๆ ผู้ต้องการน้ำนมย่อมรีดนมบ่อย ๆลูกโคย่อมเข้าหาแม่โคบ่อย ๆ บุคคล ย่อมลำบากและดินรนบ่อย ๆ คนเขลาย่อมเข้าถึงครรภ์บ่อยๆ สัตว์ย่อมเกิดและตายบ่อยๆบุคคลทั้งหลายย่อมนำซากศพไปป่าช้าบ่อย ๆ ส่วนผู้มีปัญญาถึงจะเกิดบ่อย ๆ ก็เพื่อได้มรรคแล้วไม่เกิดอีก ดังนี้

เช่น การให้ทาน 7 อย่าง ที่หวังผลต่างกัน ในทานสูตร ในเวลามสูตร ...เจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงเวลาลัดนิ้วมือ มีผลมากกว่า การเจริญเมตตาจิต ก็ล้วนแต่หวังผลทั้งนั้น เนื่องจากในธรรมวินัยนี้ อาศัยธรรมเพื่อหนีจากธรรมและอธรรม ดังนั้น การทำกุศลโดยไม่หวังผลย่อมไม่มี ต้องพูดให้ตรง ถ้ายังไม่ใช่ผู้หลุดพ้นแล้ว ไปพูดว่าไม่หวังผล มันจะเป็นการขี้คุย

ธรรมติชาตินี้ ทำบุญโดยไม่รู้ก็ได้บุญ ทำบาปโดยไม่รู้ก็ได้บาป แต่คนที่ทำบุญโดยไม่รู้ว่าเป็นบุญ (ในขณะทำอยู่นั้น ไม่รู้ว่านี้เป็นบุญ) ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่หวังผลนะ เช่น เก็บตระปูออกจากถนนเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร ไม่รู้ว่านี้เป็นบุญ มีคนโยนตระปูนั้นเข้าถนนอีกที แล้วบอกกับผู้นั้นว่า จงเก็บออกอีกจะให้สิบล้าน คุณคิดว่า เขาจะไม่เก็บออกอีกหรือ ? หรือ เกิดเป็นคนยากจนอยู่ จะไม่หวังให้ตนมีอยู่มีกินหรือ เพราะธรรมชาติของสัตว์โลก เมื่อมีเวทนาที่เป็นทุกข์ ย่อมหวังเวทนาที่เป็นสุขเป็นธรรมดา ทำบุญไม่หวังผล ไม่มีหรอก สร้างให้ตนเองหลุดพ้นมันก็คือหวังผล เพราะอาศัยบุญ เพื่อหนีจากบาปและบุญ