ช้าง โค ม้า และลาในจุลศีลหมายถึงยาน
ในพระไตรปิฎก ล้วนแต่กล่าวถึงสัตว์เหล่านี้ว่าเป็นยาน
...บทว่า ยานโท ได้แก่ ยานทั้งหลายมีหัตถิยาน (ยานช้าง) เป็นต้น ก็แต่ว่าในบรรดายานเหล่านั้น ยานช้าง ยานม้า ย่อมไม่สมควรแก่สมณะ การให้ไปด้วยรถก็ไม่สมควรเหมือนกัน ยานที่สมควรแก่สมณะก็คือ รองเท้าสำหรับสมณะผู้รักษาอยู่ซึ่งศีลขันธ์...
ช้างและม้าเป็นต้น คือ ยาน เป็นอกัปปิยะ ไม่สมควรแก่สมณะ
...ได้ทำการบูชาด้วยม้าสินธพตัวอาชาไนย ก็แลครั้นบูชาแล้วคิดว่า ช้างและม้าเป็นต้นไม่สมควรแก่สมณะทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น เราจักถวายกัปปิยะภัณฑ์ ให้ตีราคากัปปิยภัณฑ์นั้น แล้วได้ถวายจีวรอันสำเร็จด้วยผ้าฝ้าย ผ้ากัมพล และโกเชาว์เป็นต้น และถวายเภสัชบริขาร มีการบูรและเปรียงเป็นต้น อันสมควรด้วยกหาปณะ ซึ่งมีราคาตามกัปปิยภัณฑ์นั้น...
ในสมัยนั้น รถยนต์ มันไม่มีอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าก็ไม่ตรัสถึงเป็นธรรมดา จะตรัสเอาเฉพาะแต่ยานที่ใกล้ตัวในสมัยนั้นเป็นตัวอย่างให้ แม้ท่านจะรู้อยู่ว่า ในอนาคตจะมีรถยนต์ก็ตาม แต่พุทธะจะไม่ตรัสถึง เช่น จะตรัสคำว่า กษัตริย์ จะไม่ตรัสคำว่า ประธานาธิบดี หรือ นายกรัฐมนตรี บัณฑิตพึ่งทราบเนื้อความเอาเอง สรุปความหมายคือ ยานพาหนะ รวมถึงรถยนต์ด้วย ถวายพระไม่ได้