เอาอาหารหรือน้ำไปไหว้รูปปั้นไม่มีอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า
- ประการที่หนึ่ง พระพุทธเจ้า (ความรู้), พระพุทธรูป (ตัวพระพุทธเจ้า), และ เจดีย์วัตถุ (ธาตุเจดีย์ และ ปริโภคเจดีย์) ไม่ใช่รูปปั้น
- ประการที่สอง พระพุทธเจ้าไม่เคยบอกให้เอาอาหารหรือเครื่องดื่มไปบูชาเจดีย์วัตถุ มีแต่บอกให้เอาจำพวกดอกไม้ ของหอม หรือจะไม่มีก็ได้ แค่ทำจิตให้เลื่อมใสก็ได้ อย่างเช่นในสูตรนี้
...อานนท์ เขาปฏิบัติในพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิอย่างนี้แล้ว พึงปฏิบัติในพระสรีระของพระตถาคตเหมือนเขาปฏิบัติในพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิฉะนั้น พึงสร้างพระสถูปของพระตถาคตไว้ในทางใหญ่ ๔ แพร่ง ชนเหล่าใด จักยกขึ้นซึ่งมาลัยของหอมหรือจุณ จักอภิวาท หรือยังจิตให้เลื่อมใสในพระสถูปนั้น ข้อนั้นจักเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน...
แต่ถ้าเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มก็ต้องคู่กับปฏิคาหก คือ เอาไปให้สิ่งที่มีชีวิตกิน ในทักษิณาวิภังคสูตร พูดถึงผู้รับที่เป็นสิ่งที่มีชีวิต ปฏิคาหกคือสิ่งที่มีชีวิต ปฏิคาหกไม่ใช่รูปปั้น (ไม่รู้เขาอ่านกันยังไง จะดึงให้ปฏิคาหกเป็นรูปปั้นให้ได้) รูปปั้นกินไม่ได้ เมื่อกินไม่ได้ มันก็เป็นการกระทำสิ่งที่ไร้ผล เป็นการกระทำที่ประกอบด้วยความเห็นผิด เหมือนอย่างในอรรถกถาอัคคิกสูตร ที่ว่ามีพราหมณ์คนหนึ่งเอาข้าวปายาสไปไหว้พระพรหม แทนที่จะเอาไปให้ปฏิคาหก เป็นการกระทำสิ่งที่ไร้ผล ก้าวลงสู่ทางอบาย เพราะพระพรหมกินไม่ได้
... เล่ากันมาว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูโลกในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นพราหมณ์นี้ ทรงพระดำริว่า พราหมณ์นี้ถือข้าวปายาสอันเลิศเห็นปานนี้เอาไปเผาไฟ ด้วยตั้งใจจะให้มหาพรหมบริโภคย่อมกระทำสิ่งที่ไร้ผล ก้าวลงสู่ทางอบาย เมื่อไม่ละลัทธินี้ ก็จักทำอบายให้เต็ม ...
พราหมณ์คนนั้น มีความหวังดีอยากให้พระพรหมได้บริโภคใช่ไหมจึงทำแบบนั้น ? แล้วเมื่อหวังดีแบบนั้น ทำไมพระพุทธเจ้าตรัสว่า "ย่อมกระทำสิ่งที่ไร้ผล ก้าวลงสู่ทางอบาย เมื่อไม่ละลัทธินี้ ก็จักทำอบายให้เต็ม" ล่ะ ? ก็เช่นเดียวกันกับการเอาอาหารหรือน้ำไปไหว้รูปปั้นแล้วก็เข้าใจเอาเองว่าถูก
แม่เห็นลูกเป็นทุกข์ อยากเสพยาบ้า ก็ไปซื้อมาให้ลูกเสพ จะอ้างว่ารักลูกแบบนี้ไม่ถูกหรอก สัมมาปฏิบัติมันมีองค์ประกอบของมัน จะไปอ้างแต่เจตนาลูกเดียว หรือไปกำหนดนิยามของความถูกต้องเอาเองไม่ได้หรอก เพราะเมื่อคุณมีความเห็นผิด คุณย่อมทำผิดแน่นอน
...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีอวิชชาไม่เห็นแจ้งย่อมมีความเห็นผิด ผู้มีความเห็นผิด ย่อมมีความดำริผิด ผู้มีความดำริผิดย่อมมีวาจาผิด ผู้มีวาจาผิด ย่อมมีการงานผิด ผู้มีการงานผิด ย่อมมีการเลี้ยงชีพผิด ผู้มีการเลี้ยงชีพผิด ย่อมมีความพยายามผิด ผู้มีความพยายามผิดย่อมมีความระลึกผิด ผู้มีความระลึกผิด ย่อมมีความตั้งใจผิด ผู้มีความตั้งใจผิด ย่อมมีความรู้ผิด ผู้มีความรู้ผิด ย่อมมีความหลุดพ้นผิด...
แม้แต่ฝรั่งที่ไม่ได้ถือพุทธเลย เขาก็ไม่ทำ เอาอาหาร เอาน้ำไปไหว้รูปปั้น แต่คนที่ประกาศว่าถือพุทธ ถือศาสนาแห่งปัญญา แต่กลับทำสิ่งที่ด้อยปัญญา