พระอริยะไม่ทำปาณาติบาต
...วิภัตติ พหุวจนะ. มีคำอธิบายว่า พ่อคุณ ! ดีละ เธอจงช่วยปลงชีวิตพวกฉันที ก็บรรดาภิกษุเหล่านั่น ภิกษุผู้ เป็นอริยะไม่กระทำปาณาติบาต ไม่ชักชวนบุคคลอื่น ทั้งไม่อนุญาตด้วย ส่วนภิกษุผู้เป็นปุถุชน กระทำได้แทบทุกอย่าง...
หรือในเรื่องที่ภิกษุ 500 รูป มีทั้ง ปุถุชน โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และพระขีณาสพ ฆ่าตัวตายบ้าง ให้ผู้อื่นฆ่าตนบ้าง เป็นเพราะวิบากกรรมเก่าที่แก้ไขไม่ได้ และในนี้ก็มีอธิบายไว้ว่า พระอริยะไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ฆ่าผู้อื่น หรือยินดี มีแต่ปุถุชนเป็นผู้ทำ
...คำว่า แสวงหาศาสตราสำหรับปลงชีวิตคือแสวงหาศัสตราเครื่องนำเอาชีวิตไป ภิกษุเหล่านั้น ไม่ใช่แต่แสวงหาศัสตรามาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ปลงตนจากชีวิตด้วย ก็แลพวกภิกษุได้เข้าไปหาแม้นายมิคลัณฑิกผู้แต่งตัวคล้ายสมณะแล้ว พูดว่า คุณ ! ดีละขอคุณช่วยปลงชีวิตพวกอาตมาทีเถิด ก็ในที่นี้ พวกอริยะไม่ได้ทำปาณาติบาตเลย ไม่ได้ชักชวน ไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปตามด้วย แต่ปุถุชนได้ทำทุกอย่าง...
แม้ไม่มีอรรถกถาอธิบาย เทียบสูตรอื่นก็เข้าใจได้ว่า พระอริยะไม่ทำปาณาติบาต เช่น
...พระศาสดาตรัสถามว่า "ท่านทั้งหลายเห็นเธอกำลังทำสัตว์มีชีวิตเป็นอันมากให้ตายแล้วหรือ ?" ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า "ไม่ได้เห็น พระเจ้าข้า" ศ. ท่านทั้งหลายไม่เห็นเธอ (ทำดังนั้น) ฉันใดแล ถึงเธอก็ไม่เห็นสัตว์มีชีวิตเหล่านั้น ฉันนั้น ภิกษุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าเจตนาเป็นเหตุ ให้ตาย ของพระขีณาสพทั้งหลาย (คือบุคคลผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว) มิได้มี...
[๑๕๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิจะพึงฆ่ามารดานั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายแต่ข้อที่ปุถุชนจะพึงฆ่ามารดานั้น เป็นฐานะที่จะมีได้...
พระฉันนะ พระโคธิกะ พระวักกลิ ไม่ได้ฆ่าตัวตายหลังเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่ทำก่อนเป็น พระอรหันต์เมื่ออยู่ในเพศบรรพชิตแล้ว จะไม่ฆ่าตัวตายหรือปรินิพพานเองเมื่อไม่มีเหตุ