เรื่องพระปัจเจกพุทธเจ้าเสก ทราย ด้าย ด้วยพระปริต ให้พระราชกุมาร (อรรถกถาเตลปัตตชาดก)
- พระปัจเจกพุทธเจ้าเสกทราย, ด้าย ด้วยพระปริต เป็นกรณีเฉพาะในเหตุการณ์เฉพาะ ไม่ได้ทำเพื่อหวังลาภ เพื่อเงินทอง จะเอามาเทียบใส่การปลุกเสก รดน้ำมนต์ ทำมนต์ดำ เครื่องรางของขลัง ในยุคที่โลกอยู่ในขาเสื่อมลง ที่มีคนหยาบ คนโง่เขลาเยอะ ไม่ได้ รายละเอียดในเรื่องพระคุณของผู้ทำพระปริต รายละเอียดวิธีการ ไม่เหมือนกัน
- อย่าลืมว่า พระปัจเจกท่านไม่สามารถแสดงธรรมสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้ ฉะนั้น ทำในกรณีเฉพาะนั้น ก็สามารถทำได้
- แต่พระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าพระองค์นี้บัญญัติ ไม่มีว่าให้ปลุกเสก ฉะนั้น ควรยึดถือเอาพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้เป็นหลัก จะเอาไปใช้กับการสร้างรูปปั้น สร้างพระเครื่องไม่ได้ เพราะรูปเปรียบพระพุทธเจ้าไม่มี ผู้ที่เข้าใจความหมายของคำว่า "พระธรรม" จริง ก็ต้องถือตามพระธรรมให้ถูกต้อง
- บางเรื่องเป็นเรื่องเฉพาะ จะเอามาอ้างในกรณีที่แตกต่างไม่ได้ เช่น พระฉันนะนำเอาศาสตรามาฆ่าตัวตาย แล้วพิจารณา สำเร็จเป็นพระอรหันต์ สมสีสีแล้วก็ปรินิพพาน จะเอาศาสตรามาปาดคอให้หลุดพ้นเหมือนพระฉันนะไม่ได้ พระองคุลิมาลทำสัจจวาจาช่วยสตรีคนหนึ่งที่มีครรภ์แก่หนัก จะเอาเรื่องนี้มาอ้างในการช่วยเหลือสังคมในแบบที่ผิด (เช่น เอาเงินไปแจก ทำอาหารแจก ...) ไม่ได้ รายละเอียดไม่เหมือนกัน พระองคุลิมาลแค่ทำสัจจวาจา ไม่ได้ทำผิดวินัย
- ผู้ที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จักยกเอาหลายๆสูตรมาเทียบ ก็จะอ้างแค่เรื่องเดียวเบ็ดเสร็จในวงแคบ เพื่อเป็นข้อสนับสนุนให้เข้ากับกรณีของตนเอง
...พระโพธิสัตว์ตรัสว่าข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ เรื่องนั้นจงยกไว้ ข้าพเจ้ารับโอวาทของพระคุณเจ้าทั้งหลายแล้ว จักแลดูพวกมันทำไม ? ดังนี้แล้วขอให้พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายทำพระปริต รับทรายเศกด้วยพระปริต และด้ายเศกด้วยพระปริต บังคมลาพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระราชมารดา พระราชบิดา เสด็จไปสู่พระราชวัง ตรัสกะคนของพระองค์ว่า เราจักไปครองราชสมบัติในพระนครตักกสิลา พวกเจ้าจงอยู่กันที่นี่เถิด...