ปัจจุบันนี้ เราอยู่ในยุคพระธาตุ ไม่ใช่ยุคพระพุทธรูป (รูปเปรียบพระพุทธเจ้าไม่มี)
- พระพุทธรูป คือ ร่างกายพระพุทธเจ้า [พระพุทธ + รูป (รูปร่าง ร่างกาย) = พระพุทธรูป] (The "Buddharupa" หรือ The "Form of the Awakened One") พระพุทธรูป ไม่ใช่รูปปั้น
ปรินิพพานมี ๓ อย่าง กิเลสปรินิพพาน และ ขันธปรินิพพาน ได้มีแล้ว หมายความว่า ปัจจุบันนี้ พระพุทธรูปไม่มี เพราะดับขันธ์แล้ว ยังมีแต่พระธาตุ ฉะนั้น เราอยู่ในยุดของพระธาตุ ไม่ใช่ พระพุทธรูป
...ขึ้นชื่อว่าปรินิพพานมี ๓ อย่างคือ กิเลสปรินิพพาน ๑ ขันธปรินิพพาน ๑ ธาตุปรินิพพาน ๑ ในปรินิพพานทั้ง ๓ อย่างนั้น การดับรอบแห่งกิเลสได้มีแล้วที่โพธิบัลลังก์ การดับรอบแห่งขันธ์ได้มีที่เมืองกุสินารา การดับแห่งธาตุจักมีในอนาคต...
สอดคล้องกับที่ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า เมื่อกายของตถาคตแตกสิ้นชีวิตแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจะไม่เห็นตถาคตอีก นั้นก็หมายความว่า พระพุทธรูปมีแค่หนึ่ง ถ้าไม่มีคือไม่มีอีกเลย จนกว่าพระพุทธเจ้าอีกพระองค์จะอุบัติขึ้น สร้างรูปมาเปรียบก็ไม่ได้
...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตดำรงอยู่ ต่อเมื่อกายแตกสิ้นชีวิตแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจะไม่เห็นตถาคต ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวงมะม่วงเมื่อขาดจากขั้วแล้ว ผลใดผลหนึ่งที่ติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป ฉันใดดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพชาติแล้วก็เหมือนฉันนั้น ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ ต่อเมื่อกายแตกสิ้นชีวิตแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจะไม่เห็นตถาคต...
พระพุทธเจ้าห้ามปั้นรูปพระองค์ เพราะรูปเปรียบพระพุทธเจ้าไม่มี ถ้าใครไปสร้างรูปเปรียบ ก็เท่ากับละเมิดคำสอน