No Favorites

สัตว์ที่เขลา โง่เง่า เงอะงะไม่สามารถที่จะรู้อรรถแห่งคำเป็นสุภาษิต … มีมากกว่า สัตว์ที่มีปัญญา ไม่โง่เง่า มีเป็นส่วนน้อย

พระพุทธเจ้าตรัวไว้ว่า สัตว์ที่เขลาโง่เง่า เงอะงะไม่สามารถที่จะรู้อรรถแห่งคำเป็นสุภาษิต ... มีมากกว่า สัตว์ที่มีปัญญา ไม่โง่เง่า มีเป็นส่วนน้อย ดังนั้น ถ้าถือผิด แม้มีจำนวนมาก ก็ไม่มีความหมาย เพราะศาสนานี้เน้นคุณภาพ (Quality) ไม่เน้นปริมาณ (Quantity)

...สัตว์ที่เกิดในปัจจันตชนบทในพวกชาวมิลักขะที่โง่เขลา มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่มีปัญญา ไม่โง่เง่าไม่เงอะงะ สามารถที่จะรู้อรรถแห่งคำ เป็นสุภาษิตและคำเป็นทุพภาษิตได้ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่เขลา โง่เง่า เงอะงะ ไม่สามารถที่จะรู้อรรถแห่งคำเป็นสุภาษิต และคำเป็นทุพภาษิตได้ มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่ประกอบด้วยปัญญาจักษุอย่างประเสริฐ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ตกอยู่ในอวิชชา หลงใหล มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่ได้เห็นพระตถาคต มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้เห็นพระตถาคต มากกว่าโดยแท้ สัตว์ที่ได้ฟังธรรมวินัยที่ พระตถาคตประกาศไว้ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้ฟังธรรมวินัยที่พระ ตถาคตประกาศไว้ มากกว่าโดยแท้ ...

[๑๗๕๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ผู้ประกอบด้วยปัญญาจักษุ อันเป็นอริยะ มีประมาณน้อย โดยที่แท้ สัตว์ผู้ตกไปในอวิชชาเป็นผู้งมงาย มีมากกว่า ฯลฯ

กระทู้เกี่ยวข้อง :  #ศาสนาพุทธเน้นคุณภาพ (Quality) ไม่เน้นปริมาณ (Quantity)  #บุคคลที่จะถือพระรัตนตรัยได้ “อย่างถูกต้อง” ไม่ใช่เรื่องง่ายและมีปริมาณน้อยด้วย