No Favorites

ใครบวชให้บัณเฑาะก์นี่โง่ฉิบหายเลย

บัณเฑาะก์เป็นวัตถุแห่งอาบัติ ทั้งห้ามมรรคด้วย ทั้งเป็นอนุปสัมบันด้วย เพราะบวชยังไงก็ไม่ใช่อุปสัมบัน ไม่เหมือนกับสตรีที่เป็นวัตถุแห่งอาบัติแต่ไม่ได้ห้ามมรรค บวชได้ (เพียงแต่สมัยนี้บวชไม่ได้ เพราะต้องอุปสมบทในสงฆ์สองฝ่าย)

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "อนุปสัมบัน คือ บัณเฑาะก์" แล้วตรัสว่า "อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย" หมายความว่า บัณเฑาะก์นั่นเป็น อนุปสัมบัน บวชยังไงก็ไม่ใช่ อุปสัมบัน

...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบัน คือ บัณเฑาะก์ ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย

แม้จะบวชตั้งพันครั้งก็คงเป็นอนุปสัมบันนั่นเอง

...บทว่า โทสาริโต มีความว่า บุคคลนั้น สงฆ์ให้อุปสมบทแล้วแม้ตั้งพันครั้ง ก็คงเป็นอนุปสัมบันนั่นเอง ฝ่ายอาจารย์และอุปัชฌาย์ย่อมมีโทษ การกสงฆ์ที่เหลือก็เหมือนกัน ใคร ๆ ไม่พ้นจากอาบัติ อภัพพบุคคล ๑๑ จำพวกเหล่านี้ สงฆ์เรียกเข้าหมู่ใช้ไม่ได้เลย ด้วยประการฉะนี้ ส่วนบุคคล ๓๒ จำพวก มีตนมือด้วนเป็นต้น เรียกเข้าหมู่โดยชอบ สงฆ์ให้อุปสมบทแล้ว ย่อมเป็นอุปสัมบันแท้ บุคคลเหล่านั้น ใคร ๆ จะว่ากล่าวอะไร ๆไม่ได้ แต่อาจารย์กับอุปัชฌาย์และการกสงฆ์ย่อมไม่มีโทษ ใคร ๆ ไม่พ้นจากอาบัติ...

นอกจากจะไม่เป็นอุปสัมบันแล้ว ยังเป็นวัตถุแห่งอาบัติ ทั้งห้ามมรรคด้วย มันไม่มีใครหรอกเอาสิ่งที่ไม่ควรไปอยู่ร่วมกับสิ่งที่ควร ดังที่อุปมาเรื่องหญ้าที่ทำลายต้นข้าว จึงไม่มีเหตุอันใดเลยที่จะต้องไปบวชให้ บางวัดเอาบัณเฑาะก์มาเป็นเจ้าอาวาส คือ เอาโยมเป็นเจ้าอาวาส

กระทู้เกี่ยวข้อง :  #อภัพพบุคคล (บุคคลผู้ไม่อาจบรรลุธรรมได้) 11 จำพวกเหล่านี้ สงฆ์เรียกเข้าหมู่ไม่ได้เลย อาจารย์ กับอุปัชฌาย์ และการกสงฆ์ย่อมมีโทษ  #เรื่องชนิดบัณเฑาะก์ที่อรรถกถาอธิบายว่าบวชได้ขัดต่อพุทธพจน์หรือไม่  #ที่พระพุทธเจ้าห้ามบวชบัณเฑาะก์ ไม่ได้หมายความว่า ห้ามมรรคจริงหรือ ?