No Favorites

สวดมนต์ข้ามปีไม่ใช่คำสอนพระพุทธเจ้า ห่างไกลมากจากธรรม

เป็นประเพณีเฉลิมฉลองของฝรั่ง เอามาแทรกเข้ากับการสวดมนต์ไม่รู้เรื่อง (ถือมงคลตื่นข่าว ) และก็ไม่อยู่บ้าน (เที่ยวไปในเวลากลางคืน) และก็ถ่ายรูปอวด และ พระก็หาเหตุรับเงินทอง มีแต่องค์ประกอบที่ผิดทั้งนั้นเลย ห่างไกลมากจากธรรม

(1) วันปีใหม่เป็นประเพณีเฉลิมฉลองของฝรั่ง

พระพุทธเจ้า ไม่ทรงสรรเสริญการเฉลิมฉลองอยู่แล้ว และทรงตรัสไว้ว่า สัตว์ผู้งดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่นอันเป็นข้าศึก มีน้อย ทีนี้เอาประเพณีทางโลกนี้มาแทรกเข้าใส่กับพุทธ มันจึงไม่เข้ากัน

[๑๗๗๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉั้นนั้นเหมือนกัน สัตว์ผู้งดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่นอันเป็นข้าศึก มีน้อย โดยที่แท้ สัตว์ผู้ไม่งดเว้น จากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่นอันเป็นข้าศึก มีมากกว่า ข้อนั้น เพราะเหตุ ไร ฯลฯ

(2) สวดมนต์ไม่รู้เรื่อง (กลายเป็นถือมงคลตื่นข่าว)

สวดมนต์ในศาสนาพุทธต้องรู้เรื่อง รู้ความหมาย และไม่ใช่สวดเพื่อให้เป็นมงคลงมงาย ถ้าไม่รู้ความหมายแล้วไปสวดเพื่อให้เป็นมงคลงมงาย กลายเป็น ถือมงคลตื่นข่าว ทันที วันเวลาผ่านพ้นไปของมันเองอยู่แล้วในธรรมชาตินี้ ถ้าเอาเวลานั้นมาเป็นประเด็น แล้วถือลักษณะมงคลงมงายในเวลานั้น เรียกว่า ถือมงคลตื่นข่าว ดูเพิ่ม "ความเข้าใจที่ผิด เรื่องสวดมนต์แบบไม่รู้เรื่องเฉยๆ (แปลไม่ได้ ไม่เข้าใจความหมาย) ก็ได้บุญ ที่จริงแล้วคือการปฏิบัติที่ผิด"

(3) เที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืน

เวลาที่ควรอยู่บ้าน แต่กลับไม่อยู่ เดินทางออกไปนอกบ้านในยามวิกาล ไปอยู่ในที่ที่มีผู้คนมาก มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อบุตร ต่อภรรยา ต่อทรัพย์สมบัติ ที่อยู่ในบ้าน ชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาตัว ไม่คุ้มครอง ไม่รักษาบุตร ภรรยา ไม่คุ้มครอง ไม่รักษาทรัพย์สมบัติ ดังพระสูตรนี้ตรัสไว้ ...

[๑๘๐] ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษในการเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืน ๖ ประการ คือ ชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาตัว ๑ ชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาบุตรภรรยา ๑ ชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาทรัพย์สมบัติ ๑ เป็นที่ระแวงของคนอื่น ๑ คำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้น ๆ ย่อมปรากฏในผู้นั้น ๑ ทำให้เกิดความลำบากมาก ๑ ดูก่อนคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืนเหล่านี้แล

การเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืน คือ ไปในเวลาที่ไม่ควร ไม่ใช่เวลาที่ควรไป

...บทว่า วิกาลวิสิขาจริยานุโยโค ความว่า ความเป็นผู้เที่ยวไปในตรอกอันไม่ใช่เวลา...

(4) ไปแล้วก็ถ่ายรูปอวด

บ่มตนเองให้เป็นคนขี้อวด มัวเมาในรูปร่างของตนเอง มีโทษอีก

(5) พระก็หาเหตุรับเงินทอง

ดูเพิ่มเติม "เอาเงินถวายพระ/พระรับเงิน เป็นการทำลายศาสนา บาปทั้งผู้ให้และผู้รับ" "รวมพระสูตรที่เกี่ยวข้องกับพระรับเงิน"

หลักธรรมที่เกี่ยวกับ "เวลา" ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ เช่น ...

(1) ศาสนานี้ คิดดีทำดีได้ทุกเวลาที่สะดวก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้านั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลากลางวัน เวลากลางวันนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดพระพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น

(2) เวลาผ่านไป อายุก็มากขึ้น หมายความว่า แก่เข้าไปทุกที ใกล้ความตายเข้าไปทุกที ควรอยู่อย่างไม่ประมาท ดังที่ตรัสไว้ใน เทวทูตสูตร

...พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านไม่ได้เห็นหญิงหรือชายมีอายุ ๘๐ ปี ๙๐ ปี หรือ ๑๐๐ ปี นับแต่เกิดมา ผู้แก่ ซี่โครงคด หลังงอ ถือไม้เท้า งกเงิ่น เดินไป กระสับกระส่าย ล่วงวัยหนุ่มสาว ฟันหัก ผมหงอกหนังย่น ศีรษะล้าน เหี่ยว ตัวตกกระ ในหมู่มนุษย์หรือ

สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า เห็น เจ้าข้า

พระยายมถามอย่างนี้ว่า ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ ท่านนั้นรู้ความ มีสติเป็นผู่ใหญ่แล้ว ได้มีความดำริดังนี้บ้างไหมว่า แม้ตัวเราแล ก็มีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ควรที่เราจะทำความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจ

สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่อาจ เจ้าข้า มัวประมาทเสีย เจ้าข้า....

สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือ บรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ...

[๕๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฐานะ ๕ ประการนี้ อันสตรี บุรุษคฤหัสถ์ หรือบรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ ๕ ประการเป็นไฉน คือ สตรีบุรุษ คฤหัสถ์หรือบรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ๑ เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ ๑ เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ๑ เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น ๑ เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งจักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ๑.

สรุปคือมีแต่องค์ประกอบที่ผิดทั้งนั้นเลย แต่บางคนก็มักจะพูดว่า ดีกว่าไปดื่มสุราข้ามปี จะยกเอาข้อที่คนไปดื่มสุรามาเทียบใส่เลยก็ไม่ถูก เพราะคนไม่ไปดื่มสุราก็มี แต่คนเขาชอบอ่ะ ยังไงเขาก็ชอบ ที่จะไปสวด คนเหล่านี้ มักจะค้านว่า ไม่ผิด ไม่ผิด และ ก็ไม่ผิด ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร และ ก็ไม่เป็นไร ... สักแต่พูดไปตามความชอบ ความเข้าใจของตนเอง แต่ถ้าให้ ยกเอาหลักธรมมมาอ้าง แล้วอธิบายว่า ถูกผิดตามหลักธรรมยังไงบ้าง ตามความเป็นจริง ตรงไปตรงมา คงไม่ได้

กระทู้เกี่ยวข้อง :  #ความเข้าใจที่ผิด เรื่องสวดมนต์แบบไม่รู้เรื่องเฉยๆ (แปลไม่ได้ ไม่เข้าใจความหมาย) ก็ได้บุญ ที่จริงแล้วคือการปฏิบัติที่ผิด  #อธิบายความหมายธรรม 5 ประการ ของอุบาสกเลวทราม  #ภิกษุไม่ควรยินดีจัดงานวันเกิด ไม่ควรยินดีกับการอวยพรวันเกิด