No Favorites

ศีลข้อไหนรักษาได้ยากสุด

ในศีล 5 ข้อไหนรักษาได้ยากสุด ? ไม่เกี่ยวกับตัวของศีล เกี่ยวกับศรัทธาและปัญญาของคน เพราะผู้มีศรัทธาอ่อนและปัญญาอ่อน แม้โทษเพียงอาบัติทุกกฏ ก็เป็นของใหญ่ละได้ยาก ดุจปาราชิก แต่เป็นของง่ายสำหรับผู้ที่มีศรัทธามากและปัญญามาก

...บทว่า เตสํ ชื่อว่าเครื่องผูกมัดมีกำลังเพราะโมฆบุรุษมีศรัทธาอ่อนและเพราะมีปัญญาอ่อน แม้โทษเพียงวัตถุแห่งอาบัติทุกกฏ ก็เป็นของใหญ่ละได้ยาก ดุจวัตถุแห่งปาราชิกฉะนั้น...

เพราะความดีคนดีทำได้ง่าย คนชั่วทำได้ยาก ดังนั้น การรักษาศีลย่อมทำได้ง่ายสำหรับคนดี ย่อมยากสำหรับคนชั่ว

...ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า ความดีคนดีทำได้ง่าย ความดีคนชั่วทำได้ยาก ความชั่วคนชั่วทำได้ง่าย ความชั่วพระอริยะทั้งหลายทำได้ยาก...

อุบาสก 5 คน แต่ละคนรักษาศีลข้อเดียว ในศีล 5 ข้อ แล้วทุ่มเถียงกันว่า ใครทำได้โดยยาก พระศาสดาตรัสว่า " ศีลทั้งหมดเป็นของรักษาไว้โดยยากทั้งนั้น "

...ความพิสดารว่า บรรดาอุบาสกเหล่านั้น อุบาสกคนหนึ่งย่อมรักษาสิกขาบท คือเจตนาเครื่องงดเว้นจากการยังชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไปอย่างเดียว (ส่วน) อุบาสกทั้งหลายนอกนี้ ย่อมรักษาสิกขาบททั้งหลายนอกนี้ วันหนึ่ง อุบาสกเหล่านั้นเกิดทุ่มเถียงกันว่า " เราย่อมทำกรรมที่ทำได้โดยยาก เราย่อมรักษาสิ่งที่รักษาได้โดยยาก" ไปสู่สำนักของพระศาสดา ถวายบังคมแล้วกราบทูลความนั้น พระศาสดาทรงตัดสิน พระศาสดา ทรงสดับถ้อยคำของอุบาสกเหล่านั้นแล้ว มิได้ทรงกระทำศีลแม้ข้อหนึ่งให้ต่ำต้อย ตรัสว่า "มีศีลทั้งหมดเป็นของรักษาไว้โดยยากทั้งนั้น"...

ยังมีอีก เรื่องที่ภิกษุ 5 รูป ต่างโต้เถียงกันว่าตนรักษาทวารที่รักษาได้ยาก แต่พระพุทธเจ้าแก้ให้ว่า ทวารเหล่านั้นแม้ทั้งหมด เป็นสิ่งที่รักษาได้โดยยากเหมือนกันทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับตัวทวาร ดังนั้น ไม่ว่าศีลข้อไหนก็ย่อมรักษาได้ยากทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับตัวของศีล ถ้าผู้นั้นไม่มีอุปนิสัยในปางก่อน

...พระศาสดาไม่ทรงยังภิกษุแม้รูปหนึ่งให้น้อยใจแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ทวารเหล่านั้นแม้ทั้งหมด เป็นสิ่งที่รักษาได้โดยยากแท้ อีกอย่างหนึ่งแล พวกเธอไม่สำรวมแล้วทวารทั้ง ๕ ในบัดนี้เท่านั้น หามิได้ แม้ในกาลก่อน พวกเธอก็ไม่สำรวมแล้ว...

การสั่งสมกรรมมาต่างกัน เช่น บางคนเกิดมาทำงานโรงฆ่าสัตว์ ฆ่าสัตว์ทั้งวัน การรักษาศีลข้อปาณาติบาตก็ย่อมเป็นของยากสำหรับผู้นั้น หรือ บางคนสั่งสมอุปนิสัยโทสะมามากแต่ปางก่อน ทำร้ายผู้อื่นหรือฆ่าสัตว์เป็นของทำได้ง่าย จะให้ละนั้นเป็นของทำได้ยาก แต่เทียบกับอีกคน แม้มดตัวหนึ่งยังไม่จงใจจะฆ่าเลย กลับทำได้ง่าย บางคนพูดอ่อนหวานได้ยาก แต่ท้าวสักกะท่านทำได้ง่าย ดังนั้น เวลาเทียบ ก็อย่าเทียบเอาฉะเพราะแต่กรณีของตน

...ถามว่า ก็เพราะเหตุไร ในโลกนี้ บางคนจึงเป็นผู้มีราคะเป็นต้นค่อนข้างกล้า บางคนจึงไม่ใช่เป็นผู้มีราคะเป็นต้นค่อนข้างกล้า? ตอบว่า เพราะว่า ในขณะสั่งสมกรรม ตามกฏของกรรม ความโลภของผู้ใดมีกำลัง ความไม่โลภอ่อนกำลัง ความไม่ประทุษร้ายและความไม่หลงมีกำลัง ความประทุษร้ายและความหลงอ่อนกำลัง ความไม่โลภของผู้นั้นอ่อนกำลัง ไม่สามารถจะครอบงำความโลภได้...

แม้จะทำแบบสำรวจสอบถามคนทั้งโลกในชาตินี้จะได้ข้อมูลไปในแบบไหนก็ตาม แต่มันก็ไม่แน่นอนอยู่ดี แล้วชาติต่อๆไปละ สงสารที่กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ยิ่งแล้วเทียบคนในยุคเสื่อมลงกับคนในยุคขาเจริญขึ้นที่มีศีล

ความเป็นผู้มีศีลถึงพร้อมย่อมมีได้ด้วยเหตุ ๒ ประการ คือ เพราะการเห็นโทษในการวิบัติแห่งศีล ๑ เพราะเห็นอานิสงส์ในการถึงพร้อมแห่งศีล ๑ กุศลธรรมทั้งปวงมีความไม่ประมาทเป็นมูล