ลักดาวน์โหลดเอาโปรแกรมของคนอื่น ไม่ใช่สินใช้ แต่เป็นขโมย
- สินใช้ : ก็คือหนี้หรือพันธะที่ต้องจ่าย เช่น ประมาททำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายหรือสูญหาย
...สิ่งของใดหายไป เพราะความประมาทของภิกษุผู้เฝ้าวิหารนั้นเป็นปัจจัย สิ่งของนั้นทั้งหมดเป็นสินใช้แก่เธอเหมือนภิกษุภัณฑาคาริกฉะนั้น (เหมือนสิ่งของที่หายไปเพราะความประมาทของภิกษุภัณฑาคาริก เป็นสินใช้แก่ภิกษุภัณฑาคาริกฉะนั้น)...
เช่น ค่าปรับที่จะต้องจ่าย
...จริงอยู่ การบอกเจาะตัว ไม่สมควรแม้แก่ภิกษุ เมื่อภิกษุบอกเจาะตัวอย่างนั้น ทรัพย์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำการปรับไหม เป็นภาคหลวงทั้งหมด เป็นสินใช้ (แก่ภิกษุ) เป็นปาราชิกแก่ภิกษุผู้ให้เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายปรับสินไหม โดยนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล...
ตราบใดที่ตั้งใจว่าจะจ่าย ไม่เป็นปาราชิกอยู่ตราบนั้น แต่ถ้ายืนยันว่าจะไม่จ่าย เป็นปาราชิกตรงที่ยืนยันว่าไม่จ่าย
- เอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ : มีไถยจิตปรากฏขึ้นแล้วลักเอา เช่น ลักดาวน์โหลดเอาโปรแกรมของคนอื่น ไฟล์ (ทรัพย์ของคนอื่น) มาอยู่ในคอมพิวเตอร์ของตนเอง เรียกว่าขโมยโดยตรงเลย ไม่ได้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ จึงไม่ใช่กรณีประมาทแล้วทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายหรือสูญหาย หรือ เป็นค่าปรับที่จะต้องจ่ายในเบื้องต้นก่อน แต่มันสําเร็จโดยองค์ประกอบที่ว่า มีไถยจิตปรากฏขึ้นแล้วลักเอาทรัพย์ของคนอื่น แล้วทรัพย์ของคนอื่นก็มาอยู่ในคอมพิวเตอร์ของตนเองจริงๆ ฉะนั้น จะไปว่าการกระทำเช่นนี้ไม่เป็นขโมย ไม่ได้ น่าเกลียดมาก ถ้าไปพูดแบบนั้น
[๑๒๒] ปาราชิกอาบัติ พึงมีแก่ภิกษุผู้ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการ ๕ อย่างคือ ทรัพย์อันผู้อื่นหวงแหน ๑ มีความสำคัญว่าทรัพย์อันผู้อื่นหวงแหน ๑ ทรัพย์มีค่ามากได้ราคา ๕ มาสก หรือเกินกว่า ๕ มาสก ๑ ไถยจิตปรากฏขึ้น ๑ ภิกษุลูบคลำ ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติถุลลัจจัย ให้เคลื่อนจากฐาน ต้องอาบัติปาราชิก ๑