ผู้ที่ประกาศว่าถือพระรัตนตรัย แต่ไปถืออย่างอื่นปน เป็นโกหก ผิดศีลข้อมุสา จะรักษาศีลข้อนี้ไม่ได้เลย
...[๑๗๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการย่อมเป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน ? คือ อุบาสกเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑ เป็นผู้ทุศีล ๑ เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อมงคลไม่เชื่อกรรม ๑ แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้ ๑ ทำการสนับสนุนในศาสนานั้น ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด
และเมื่อไม่มีศีลข้อนี้เป็นอาจิณ เวลาสมาทานศีล 5 ก็เป็นการละเมิด สมาทานศีลแล้วละเมิดบาปมากกว่าผู้ไม่สมาทาน ยิ่งบาปเข้าไปอีก
...ด้วยบทว่า ทุสฺสีโล ตรัสถึงบุคคลผู้ไม่มีศีล ก็บุคคลผู้ไม่มีศีลนั้นมี ๒ อย่าง คือ เพราะไม่สมาทาน หรือทำลายศีลที่สมาทานแล้ว ใน ๒ อย่างนั้น ข้อต้นไม่มีโทษ เหมือนอย่างข้อที่ ๒ ที่มีโทษแรงกว่า...
ถ้าสมาทานว่าจะรักษาศีลที่ประกอบด้วยองค์ 5 คือ จะรักษาโดยองค์รวม ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่ง เป็นอันขาดหมดทุกข้อ ถ้ามุสาข้อเดียว มันก็ขาดหมดทุกข้อ ฉะนั้น ไปสมาทานมั่วก็ผิด
แต่สำหรับคฤหัสถ์ เมื่อศีลข้อหนึ่งขาด ก็ขาดข้อเดียวเท่านั้น เพราะศีลของคฤหัสถ์เหล่านั้นมีองค์ ๕ ย่อมจะสมบูรณ์อีกด้วยการสมาทานศีลนั้น เท่านั้น แต่อาจารย์อีกพวกหนึ่งกล่าวว่าบรรดาศีลที่คฤหัสถ์สมาทานเป็นข้อ ๆ เมื่อศีลข้อหนึ่งขาด ก็ขาดข้อเดียวเท่านั้น แต่บรรดาศีลที่คฤหัสถ์สมาทานรวมกันอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าสมาทานศีล ที่ประกอบด้วยองค์ ๕ ดังนี้ เมื่อศีลข้อหนึ่งขาด ศีลแม้ที่เหลือ ก็เป็นอันขาดหมดทุกข้อ เพราะเหตุไร ? เพราะศีลข้อที่สมาทานไม่ขาด ด้วยศีลที่คฤหัสถ์ล่วงละเมิดนั่นแล ก็มีความผูกพันด้วยกรรมในข้อนี้ พึงทราบวินิจฉัย แม้โดยการขาด ด้วยประการฉะนี้
ผู้ที่ปฏิญาณตนว่าจะถือพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่พึ่งแต่กลับไปถืออย่างอื่นปน เป็นโกหก ผู้นี้จะรักษาศีลข้อนี้ไม่ได้เลย แม้จะสมาทานศีลก็เป็นละเมิด ยิ่งแล้วถือพุทธอยู่แต่ก็ไปถือศาสดาอื่น เข้ารีตอื่นไปเลย มีโทษหนักมาก ท่านจัดให้อยู่ในหมวดเดียวกันกับอนันตริยกรรม 5 เลย รวมเป็น 6 ซึ่งพระโสดาบันจะไม่ล่วงละเมิดฐานะ 6 อย่างนี้ เพราะมีโทษหนักมาก
[๓๖๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้ ๖ ประการเป็นไฉน ? คือ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อฆ่ามารดา ๑ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อฆ่าบิดา ๑ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อฆ่าพระอรหันต์ ๑ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อยังพระโลหิตของพระตถาคตให้ห้อขึ้นด้วยจิตประทุษร้าย ๑ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ๑ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อถือศาสดาอื่น ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้แล
ปโลภสูตร จึงเข้ากับคนในประเทศนี้ในยุคนี้เลย (กำหนัดยินดีไม่เป็นธรรม โลภเกินสมควร มุ่งไปแต่ทางมิจฉาธรรม ) โกหกเพราะความโลภ ...โกหกเพราะลาภสักการะและความสรรเสริญ ... โกหกเพราะอคติ 4