ท้าวสักกะถึงความเป็นท้าวสักกะเพราะได้สมาทาน วัตตบท 7
- เลี้ยงมารดาบิดาตลอดชีวิต
- มีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูลตลอดชีวิต
- พูดอ่อนหวานตลอดชีวิต
- ไม่พูดส่อเสียดตลอดชีวิต
- มีจิตปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่ มีเครื่องบริจาคอันสละแล้ว มีฝ่ามืออันล้างแล้ว๑ ยินดีแล้วในการสละ ควรแก่การขอยินดีในการจำแนกทาน
- อยู่ครอบครองเรือนตลอดชีวิต
- เป็นผู้ไม่โกรธตลอดชีวิต ถ้าความโกรธพึงเกิดแก่เราไซร้ เราพึงหักห้ามมันเสียพลันทีเดียว
...มหาลิ ท้าวสักกะถึงความเป็นท้าวสักกะแล้ว เพราะได้สมาทานวัตตบท ๗ ใด วัตตบท ๗ นั้น ได้เป็นอันท้าวสักกะผู้เป็นจอมแห่งเทพทั้งหลาย ซึ่ง (ครั้ง) เป็นมนุษย์ในกาลก่อน สมาทานให้บริบูรณ์แล้ว วัตตบท ๗ ประการเป็นไฉน ? คือเราพึงเป็นผู้เลี้ยงมารดาบิดาตลอดชีวิต พึงเป็นผู้มีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูลตลอดชีวิต พึงเป็นผู้พูดอ่อนหวานตลอดชีวิต พึงเป็นผู้ไม่พูดส่อเสียดตลอดชีวิต พึงมีจิตปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่ มีเครื่องบริจาคอันสละแล้ว มีฝ่ามืออันล้างแล้ว๑ ยินดีแล้วในการสละ ควรแก่การขอยินดีในการจำแนกทาน พึงอยู่ครอบครองเรือนตลอดชีวิต พึงเป็นผู้กล่าวคำสัตย์ตลอดชีวิต พึงเป็นผู้ไม่โกรธตลอดชีวิต ถ้าความโกรธพึงเกิดแก่เราไซร้ เราพึงหักห้ามมันเสียพลันทีเดียว ดังนี้ มหาลิ ท้าวสักกะถึงความเป็นท้าวสักกะ เพราะได้สมาทานวัตตบท ๗ ใด วัตตบท ๗ นั้น ได้เป็นของท้าวสักกะ ผู้เป็นจอมแห่งเทพทั้งหลาย (ครั้ง) เกิดเป็นมนุษย์ในกาลก่อน สมาทานให้บริบูรณ์แล้ว ฉะนี้แล...