ทำไมคนที่ชอบรูปปั้น ชอบเหรียญ ชอบพระเครื่องจึงไม่ชอบธรรมของพระพุทธเจ้าที่ไม่ให้เอาวัตถุเป็นที่พึ่ง
...ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โดยมากยักษ์มิได้เลื่อมใสต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเลย ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงธรรม เพื่องดเว้นจากปาณาติบาต ทรงแสดงธรรมเพื่องดเว้นจากอทินนาทาน ทรงแสดงธรรมเพื่องดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร ทรงแสดงธรรมเพื่องดเว้นจากมุสาวาท ทรงแสดงธรรมเพื่องดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท แต่โดยมากพวกยักษ์ มิได้งดเว้นจากปาณาติบาต มิได้งดเว้นจากอทินนาทาน มิได้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารมิได้งดเว้นจากมุสาวาท มิได้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ข้อนั้นจึงไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของยักษ์เหตุนั้น...
เช่นเดียวกันกับคนที่ชอบรูปปั้น ชอบเหรียญ ชอบพระเครื่อง เขาก็ย่อมไม่ชอบธรรมของพระพุทธเจ้าในข้อที่ไม่ให้เอาวัตถุรูปปั้นมาเป็นที่พึ่งแทนพระรัตนตรัย เขาจึงเอาอคติเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เอาธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง เมื่อไม่เอาธรรมเป็นที่ตั้งย่อมเป็นบาป
...ธรรมดาผู้ว่ากล่าวสอน ย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ที่ไม่ใช่บัณฑิตเท่านั้น แต่เป็นที่รักที่ชอบใจของบัณฑิตทั้งหลาย" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงได้ตรัสพระคาถานี้ว่า:- ๒. โอเทยฺยานุสาเสยฺย อสพฺภา จ นิวารเย สตํ หิ โส ปิโย โหติ อสตํ โหติ อปฺปิโย "ผู้ใดพึงว่ากล่าว พึงสอน และพึงห้ามจาก ธรรมของอสัตบุรุษ ผู้นั้นแล ย่อมเป็นที่รักของ สัตบุรุษทั้งหลาย ไม่เป็นที่รักของพวกอสัตบุรุษ"