(1) โคปาลกอุโบสถ (อุโบสถที่เปรียบด้วยจ้างเลี้ยงโค) คนรักษาอุโบสถผู้นั้นมีใจไปกับความอยาก ใช้วันให้หมดไปด้วยความอยากนั้น อุโบสถที่รักษาอย่างนี้ เป็นอุโบสถที่ไม่มีผลมาก

(2) นิคัณฐอุโบสถ (อุโบสถของพวกนิครนถ์เข้าจำ) บริโภคอย่างขโมยเพราะโกหก อุโบสถที่รักษาอย่างนี้ เป็นอุโบสถที่ไม่มีผลมาก

(3) อริยอุโบสถ (อุโบสถของพระอริยเจ้าทั้งหลายเข้าจำ) เป็นอุโบสถที่มีผลมาก

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ในการรักษาอุโบสถศีลนั้น ให้ทำจิตที่เศร้าหมองให้ผ่องแผ้ว เพื่อละอุปกิเลส ด้วยความพยายาม ดังนี้

• ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มื่อระลึกถึง จิตย่อมผ่องใส ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้น
• ระลึกถึงศีลของตน ตรวจสอบว่า ขาด ทะลุ ด่าง พร้อย เป็นไท หรือไม่ พยายามอยู่กับศีลของตน เพื่อละอุปกิเลส เมื่อระลึกถึงศีลของตน ที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย จิตปรารภศีลย่อมผ่องใส
• ระลึกถึงเทวดา และธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นเทวดา ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา มีอยู่ในเราหรือไม่ เมื่อเธอระลึกถึง ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ของตนกับของเทวดาเหล่านั้นอยู่ จิตย่อมผ่องใส
• ระลึกถึงพระอรหันต์ที่เป็นแบบอย่างในการรักษาอุโบสถศีล เอาพระอรหันต์มาเป็นแบบอย่าง คือ พยายามถือให้เหมือนพระอรหันต์ พยายามทำตนให้ไม่มีกิเลสเหมือนพระอรหันต์

เมื่อดูจากรายละเอียดในข้อ (3) ถ้าถือแล้ว เอาเวลาไปเล่น facebook, TikTok, YouTube ใช้เวลาให้หมดไป ไม่เข้าเลย ห่างไกลมาก ถือแบบนี้ ต่างยังไงกับไม่ถือ?

ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล หมายรวมเอาไว้หมดเลยการเล่นทั้งหลายที่เป็นข้าศึกแก่กุศล (เล่นเอง ให้ผู้อื่นเล่น ดูการเล่นเอง เป็นต้น) พระพุทธเจ้าตรัสธรรมเป็นอกาลิโก โดยไม่ประกอบด้วยกาล พระองค์จะใช้คำที่ใกล้ตัวท่าน เช่น โค (จะไม่ตรัสว่า รถโตโยต้า) พระราชา (จะไม่ตรัสว่า ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หรือ Boss) ตรัสคำเป็นฐานให้ ให้เอาไปเทียบเนื้อความเอาเอง นอกนี้ยังมี มหาประเทศ 4 ไว้ให้เทียบเคียง

และเช่นเดียวกัน พุทธะไม่ตรัสถึง fabook, TikTok, YouTube เพราะมันไม่ได้ใกล้ตัวท่าน (แม้พระองค์จะรู้ก็ตามว่าสิ่งเหล่านี้จะมีในอนาคต) ถ้าคนเพ่งแต่ตัวอักษร ไม่พิจารณาเนื้อความ ก็จะไปอ้างว่า ไม่มีใช้คำตรง ๆ ตรัสห้ามไว้ แล้วก็เอาข้อนี้มาเป็นประเด็น ถ้าเป็นอย่างนั้น ยาไอซ์ ก็ไม่ได้ใช้คำตรง ๆ ตรัสห้ามไว้ ก็จะพากันอ้างเอามาเสพ