ความหมายของคำว่าติดตำรา แล้วติดตำราไม่ดียังไง?
ดังนั้น ไม่ควรไปพูดติผู้ที่ติดตำรา เพราะผู้ที่ติการเรียนปริยัติ ชื่อว่าเป็นมหาโจร ทำลายพระศาสนา และย่อมประสบบาปเป็นอันมาก
แม้ผู้มีปัญญาทราม ก็จะนั่งในท่ามกลางแห่งอุปัฏฐากทั้งหลาย กล่าวอยู่ว่า เราย่อมสละปริยัติ ดังนี้เป็นต้น ด้วยคำว่า เมื่อเราตรวจดูหมวดสามแห่งธรรมอันยังสัตว์ให้เนิ่นช้าในมัชฌิมนิกายอยู่ มรรคนั่นแหละมาแล้วพร้อมด้วยฤทธิ์ ชื่อว่าปริยัติ ไม่เป็นสิ่งที่กระทำได้โดยยากสำหรับพวกเรา การสนใจในปริยัติ ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ ดังนี้ ย่อมแสดงซึ่งความที่ตนเป็นคนมีปัญญามาก ก็เมื่อภิกษุนั้นกล่าวอยู่อย่างนี้ ชื่อว่า ย่อมทำลายพระศาสนา ชื่อว่า มหาโจรเช่นกับบุคคลนี้ ย่อมไม่มี เพราะว่า บุคคลผู้ทรงพระปริยัติชื่อว่า ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ หามีไม่
ถึงแม้ว่าจะจำได้หมดก็ตาม ก็ต้องได้เปิด หรือ ส่งเสริมให้เปิดอ่านอยู่ดี มากกว่าที่จะให้คนมายึดติดฟังจากที่ตนเองพูดเท่านั้น เพาะไม่ใช่การรักษาธรรมเนียมธรรม หรือ รักษาวงศ์ ไว้ อันประกอบด้วยประโยชน์ ให้ศาสนาดำรงอยู่นาน ดังเช่นเรื่อง พระมหากัปปินะ เป็นตัวอย่าง พระกัปปินะ คิดว่าควรไปหรือไม่ไปทำอุโบสถ เพราะตนเองก็ได้หลุดพ้นแล้ว พุทธเจ้าทรงทราบแล้วบอกให้ไป ถึงแม้หลุดพ้นเป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม
ดูก่อนกัปปินะ เธอไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า เราควรไปทำอุโบสถ หรือไม่ควรไป ควรไปทำสังฆกรรม หรือไม่ควรไป โดยที่แท้ เราเป็นผู้หมดจดแล้วด้วยความหมดจดอย่างยิ่ง ดังนี้มิใช่หรือ ท่านพระมหากัปปินะทูลรับว่า เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ทั้งหลาย ถ้าพวกเธอไม่สักการะ ไม่เคารพ ไม่นับถือ ไม่บูชา ซึ่งอุโบสถ เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าจักสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ซึ่งอุโบสถ ดูก่อนพราหมณ์ เธอจงไปทำอุโบสถ จะไม่ไปไม่ได้ จงไปทำสังฆกรรม จะไม่ไปไม่ได้ ท่านพระมหากัปปินะรับสนองพระพุทธพจน์ว่า อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า
แม้หลุดพ้นแล้ว ก็ต้องได้เรียนปริยัติเพื่อทรงแบบแผน รักษาประเพณี อนุรักษ์วงศ์
เพราะปริยัติ เป็นมูลแห่งศาสนา แต่ก่อนมีการโต้วาทะกัน ระหว่าง ฝ่ายพระธรรมกถึกทั้งหลาย ที่กล่าวว่าพระปริยัติเป็นมูลแห่งพระศาสนา และ ฝ่ายพระเถระผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ที่กล่าวว่า ปฏิบัติเป็นมูล แต่สุดท้าย พระธรรมกถึกก็เป็นฝ่ายชนะ
...จึงอ้างพระสูตรนี้ว่า พระสูตรยังดำรงอยู่ตราบใด พระวินัยยังรุ่งเรืองอยู่ตราบใด ภิกษุทั้งหลายย่อมเห็นแสงสว่างเหมือนพระอาทิตย์อุทัย อยู่ตราบนั่น เมื่อพระสูตรไม่มีและแม้พระวินัยก็หลงเลือนไป ในโลกก็จักมีแต่ความมืด เหมือนพระอาทิตย์อัสดงคต เมื่อภิกษุยังรักษาพระสูตรอยู่ ย่อมเป็นอันรักษาปฏิบัติไว้ด้วย นักปราชญ์ดำรงอยู่ในการปฏิบัติ ย่อมไม่คลาดจากธรรมอันเกษมจากโยคะ ดังนี้เมื่อพระธรรมกถึก นำพระสูตรนี้มาอ้าง พระเถระผู้ทรงผ้าบังสุกุลทั้งหลายก็นิ่ง คำของพระเถระผู้เป็นธรรมกถึกนั้นแล เชื่อถือได้...
เมื่อไม่มีปริยัตติ ปฏิบัติก็ไม่มี
และยุคนี้ควรเน้นปริยัติ ดีกว่าปฏิบัติไม่รู้เรื่อง เพราะ อุคฆติตัญญู วิปจิตัญญู เนยยะ พระพุทธเจ้าเอาไปหมดแล้ว ดูเพิ่ม
ถ้าให้ฟังแต่ตนเองพูด (ไม่แนะนำให้คนเปิดอ่านเองเลย) ก็จะเป็นการส่งเสริมให้ยืดติดในตัวบุคคล ซึ่งมีโทษ 5 ประการ